เอเชียนเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย กลายเป็นฝันร้ายของนักกีฬาไทยซึ่งผลงานต่ำกว่าเป้าค่อนข้างเยอะ ขณะที่กองเชียร์หรือคนดูก็ถือว่างานกร่อย เป็นเอเชียนเกมส์ที่อยากลืม อยากลืมเพราะแทบไม่มีอะไรน่าจำ หรือบางคนอาจจะลืมดู ไม่รู้ว่าแข่งจบไปตั้งแต่เมื่อไหร่!
ผมเองทั้งดูเอเชียนเกมส์ และทำข่าวมาหลายสมัย เพิ่งจะมีครั้งนี้ที่รู้สึกไม่สนุกเลย เหมือนไกลตัวยังไงชอบกล
แน่นอนว่า ส่วนหนึ่งผลงานของนักกีฬาไทยไม่มีข่าวดี ไม่มีไฮไลต์เด็ด ๆ ถ้าไม่นับเหรียญทองเทควันโดที่ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ได้มาด้วยฟอร์มสุดยอด อย่างอื่นที่เหลือก็แทบจะไม่ได้เฮ
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค. 2567
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
ยกน้ำหนักไม่ได้เหรียญทอง ฟุตบอลชายตกรอบแรก แบดมินตันกับกอล์ฟแห้วทั้งคู่ กระทั่งมวยสากลสมัครเล่นที่เคยเป็นหน้าเป็นตาก็ยังพลาดเหรียญทองกันหมด
เราตั้งเป้าก่อนไปไว้ 20 เหรียญทอง ได้จริงแค่ 11 เรื่องที่ไม่รู้ว่าควรดีใจหรือผิดหวัง คือ ใน 11 เหรียญทองนั้นเป็นผลงานของทีมตะกร้อซะ 4 เหรียญ
แสดงว่ากีฬาอย่างอื่นช่วยกันทำเพิ่มได้แค่ 7 เหรียญทอง วังเวงไหมล่ะ ?
นอกจากผลงานของนักกีฬาไม่บูม อีกเรื่องที่ฉุดให้จุดกระแสไม่ติด คือ การไม่มีภาพข่าวออกทีวี
นี่เป็นเอเชียนเกมส์ครั้งแรกที่คนไทยเห็นภาพการแข่งขันของนักกีฬาน้อยที่สุด ถ่ายทอดสดก็ถ่ายอยู่แค่ 2 ช่อง คือ เวิร์คพอยท์กับพีพีทีวี ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ทีวีพูลรับผิดชอบ ผลัดกันถ่ายวนไปทุกช่อง
ผมเข้าใจเรื่องธุรกิจ ไม่มีปัญหากับช่องถ่ายทอดสดนะครับ แต่ผิดหวังที่ชาวบ้านไม่ได้ดูภาพข่าว ไม่มีโอกาสชื่นชมผลงานนักกีฬาอย่างทั่วถึง
ลำพังซูเปอร์สตาร์อย่างน้องเทนนิสยังไม่เท่าไหร่ เพราะแฟน ๆ คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ แต่สำหรับคนใหม่ ๆ หรือกีฬาไม่ดังอย่างพาราไกลดิ้ง จักรยาน วูซู อุตส่าห์ได้เหรียญทั้งทีแต่กลับไม่ได้ออกทีวี ไม่มีคนเห็นภาพแข่ง แทนที่ชีวิตจะเปลี่ยนจากการมีคนรู้จักมากขึ้น รับเงินอัดฉีดมากขึ้น ก็ได้แค่พอหอมปากหอมคอ เสียโอกาสในชีวิตไป
เรื่องนี้ไม่ต้องโทษเจ้าของลิขสิทธิ์ว่าเรียกเงินแพง ไม่ต้องโทษสถานีโทรทัศน์ว่าไม่ยอมจ่าย เพราะความจริง ทีวีพูลหรือโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจควรรับผิดชอบไปตั้งแต่แรก
ทีวีเอกชนช่องไหนจะถ่ายก็ถ่ายไป แต่ภาพข่าวนักกีฬาไทยควรแยกแยะให้ทุกช่องนำเสนออย่างทั่วถึง ไม่จำเป็นต้องยาว กำหนดเวลาให้ออกได้อย่างละ 1 นาที หรือ 30 วินาที ก็ยังดีกว่าไม่มีให้เห็นเลย
ผมว่าภาพแข่งของนักกีฬาไทย ควรเป็นสมบัติของชาติ คนในชาติต้องได้ดู เพื่อชื่นชมและเป็นแรงบันดาลใจไม่ควรคิดเป็นเรื่องธุรกิจ เป็นเงินเป็นทองจนเกินงาม
กีฬาอย่างซีเกมส์, เอเชียนเกมส์, โอลิมปิก คือการมีส่วนร่วมของคนไทย โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยจึงต้องรับผิดชอบถ่ายทอดสดตามหน้าที่จึงจะถูก
งานหน้าขอร้องว่าไม่เอาแบบนี้นะครับ