Leap.ai บริการจัดหางานอัจฉริยะ

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข่าว

คอลัมน์ สตาร์ตอัพ “ปัญหา” ทำ “เงิน”

โดย มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ

การสมัครงานไม่เคยเป็นเรื่องง่าย กว่าจะได้งานทำแต่ละทีต้องร่อนใบสมัครไปเป็นร้อย สาเหตุหนึ่งคือ “เรซูเม่” ที่ส่งไปอาจยังไม่ดีพอ

ความประทับใจเริ่มแรกสำคัญเสมอ และเจ้าเรซูเม่ นี่ละที่เป็นเครื่องมือสำคัญอันดับแรกที่นายจ้างใช้พิจารณาว่า เราพอมีคุณสมบัติผ่านเข้าไปในรอบสัมภาษณ์หรือไม่

บางคนคุณสมบัติดี การศึกษาดี แต่เรซูเม่ดูขาด ๆ เกิน ๆ โอกาสชวดงานมีสูง ในอเมริกามีการสำรวจว่าฝ่ายบุคคลส่วนมากอ่านไม่เกิน 10 วินาที/1 ใบสมัคร

สตาร์ตอัพที่จะพูดถึงวันนี้ มีบริการแก้ไข แนะนำ และปรับปรุง “เรซูเม่” โดยใช้ระบบ AI ที่รวบรวมกลเม็ดเคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญและแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อทำให้เรซูเม่ดูดี น่าประทับใจ ทันตาเห็น แถมให้ใช้บริการฟรีด้วย

บริษัทนี้ชื่อ Leap.ai ก่อตั้งโดย”ริชาร์ด ลิว และ ยุนไค ชู” เอ็นจิเนียร์จีน 2 คนที่ไต่เต้าจนขึ้นมาเป็นระดับหัวหน้าเอ็นจิเนียร์ของกูเกิ้ลก่อนลาออกมาเปิดกิจการของตนเอง

บริการแก้ไขเรซูเม่ของ Leap เป็นบริการเสริมเพื่อให้คนสนใจและทำให้บริษัทเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะงานหลักของ Leap คือ head hunter จัดหางานป้อนเทกสตาร์ตอัพในซิลิคอนวัลเลย์

แต่ Leap ไม่ได้บังคับว่าหากใช้บริการแก้ไขเรซูเม่ของเขาแล้วต้องสมัครงานผ่านบริษัทเขาด้วยนะคะ เพียงแต่เปิดเป็นทางเลือกไว้ให้ ซึ่งถ้าจะลองดูก็ไม่เสียหาย เพราะที่ต้องทำก็แค่ ล็อกอินเข้าหน้าเว็บแล้วทำแบบทดสอบเพื่อที่ระบบ AI ของบริษัทจะดึงเอาคุณสมบัติเด่น ทั้งจุดแข็ง ประสบการณ์ ทักษะ ค่านิยม และความสนใจ ของเราออกมาทำเป็นโปรไฟล์ ก่อนจับคู่โปรไฟล์เรากับตำแหน่งงานที่ว่างอยู่ของบริษัทกว่า 70 แห่งที่ใช้บริการของ Leap

เมื่อจับคู่เสร็จ ระบบจะสรุปออกมาเป็นลิสต์เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญของ Leap คัดกรองอีกครั้งก่อนส่งให้เราพิจารณา ทั้งหมดใช้เวลาเพียง 1 วันเท่านั้น

หากตัดสินใจลองสมัครตำแหน่งนั้น Leap จะส่งเรซูเม่ของเราไปให้บริษัทนายจ้าง พร้อมออกจดหมายแนะนำตัวเพื่อบอกนายจ้างด้วยว่าทำไม Leap ถึงคิดว่าเราเหมาะกับบริษัทและงานนั้น ๆ

“Leap” การันตีว่า เราจะได้ฟีดแบ็กจากนายจ้างแน่นอน ไม่ว่าจะผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์หรือไม่ก็ตาม ไม่ต้องนั่งรอ นอนรอ แบบไม่รู้ชะตาชีวิตอีกต่อไป

“ริชาร์ด ลิว” ซีอีโอบริษัทบอกว่า หลังให้บริการมาปีกว่า มีผู้สมัครกว่า 70% ผ่านรอบแรกการสัมภาษณ์ ซึ่งถือว่าไม่เลว ในนาทีที่แข่งขันดุเดือด

รายได้ของ Leap จะเกิดขึ้นเมื่อผู้สมัครได้รับเลือกให้เป็นพนักงานประจำ โดย Leap คิดค่าบริการ 10-20% ของเงินเดือนปีแรกของผู้สมัคร ซึ่งบริษัทนายจ้างจะเป็นผู้ออกทั้งหมด

ถึงจะยังไม่ยอมเปิดเผยรายได้ แต่ “ริชาร์ด” บอกใบ้ว่า น่าจะทำกำไรได้ในปีนี้ ซึ่งจากชื่อชั้นบริษัทนายจ้างที่มาใช้บริการ ถือว่าไม่ธรรมดา กว่า 10 แห่งเป็นสตาร์ตอัพระดับยูนิคอร์น ที่เหลือเป็นเทกสตาร์ตอัพดาวรุ่ง หรือไม่ก็บริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน และอินเดีย

ปัจจุบันเน้นให้บริการใน นิวยอร์กซีแอตเติล ออสติน และ ซิลิคอนวัลเลย์เป็นหลัก แต่มีแผนบุกตลาดจีนมากขึ้น เพราะผู้ก่อตั้งเป็นคนจีนทั้งคู่ และอีกส่วนเป็นเพราะกว่า 2.4 ล้านเหรียญที่ระดมทุนมาได้ ก็มาจาก venture capital ใหญ่ของจีนอย่าง Zhen Fund นั่นเอง

“ริชาร์ด” ตั้งเป้าปั้นให้ Leap เป็นบริษัทให้บริการเกี่ยวกับการพัฒนาอาชีพอย่างครบวงจร เป็นเหมือน mentor ให้คำปรึกษาและแนะแนวทางการตั้งเป้าหมายและวิธีการพัฒนาตนเองตลอดชีวิต

ปัจจุบันเริ่มมีกิจกรรมอย่างการจัด Leap Talk เชิญผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้และคำแนะนำแก่ผู้สมัคร ทั้งยังมีบทความบอกเล่าประสบการณ์ที่น่าสนใจจากผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร็จมาแชร์ให้อ่านฟรี ๆ

ถึงสุดท้ายจะไม่ได้งานทำก็ยังได้ความรู้ไปพัฒนาตัวเองฟรี ๆ “มีแต่ได้กับได้” จริง ๆ