“สพธอ.” เร่งสปีดโครงการใหญ่รับไทยแลนด์ 4.0 ปักธง มิ.ย.นี้ ทยอยใช้ได้จริง ผนึก ททท.ทำ “บิ๊กดาต้า” เชื่อม “LINE” พร้อมเปิดตัว “Durian Platform” ดันตั้งสมาคมเสริมแกร่งดิจิทัลคอนเทนต์ ทั้งลุยสร้าง National Digital ID และผุด Cybersecurity Park หนุนฮับอาเซียน ECC
นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. เปิดเผยว่า มิ.ย.นี้จะมีหลายโครงการของ สพธอ.ที่พร้อมเปิดใช้งาน อาทิ National Digital ID ที่ร่วมกับกระทรวงการคลัง, ธนาคารแห่งประเทศไทย, สถาบันการเงิน และบริษัทประกันภัยเชื่อมต่อระบบการตรวจสอบพิสูจน์ตัวบุคคลด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลร่วมกัน ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การทำธุรกิจ และการใช้บริการ และจะพร้อมใช้ในโครงการนำร่อง อาทิ โครงการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.), การยื่นภาษีกรมสรรพากร, การเปิดบัญชีสมาชิกสมาคมธนาคารไทย รวมถึงการประกันภัย ก่อนเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในปี 2562และมีโครงการ “Durian Platform” แพลตฟอร์มทางเลือกใหม่สำหรับดิจิทัลคอนเทนต์ ครอบคลุม live สด, วิดีโอ คอนเทนต์อื่น ๆ เพื่อให้ครีเอเตอร์ได้เป็นช่องทางในการนำเสนอผลงานหรือโปรโมตสินค้า ส่งเสริมอีคอมเมิร์ซ และเพิ่มจำนวนดิจิทัลคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ และปลอดภัยต่อเยาวชนด้วย โดยมีการออกแบบโมเดลธุรกิจเพื่อให้มีการจัดสรรส่วนแบ่งรายได้ให้กับครีเอเตอร์ผู้สร้างผลงาน รวมถึงการหาพาร์ตเนอร์
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ขณะเดียวกันจะเร่งผลักดันให้เกิดการตั้งสมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย เพื่อให้เอกชนได้รวมตัวกันกำกับดูแลกันเอง และสนับสนุนอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ให้เติบโตขึ้น จากที่ปีก่อนมีมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท และเติบโตต่อเนื่อง มีการอบรมบ่มเพาะครีเอเตอร์ในไทย จัดทำฐานข้อมูลเพื่อให้วิเคราะห์แนวโน้มตลาด คาดว่าจะมีร่างกฎเกณฑ์ออกมาใน มิ.ย.นี้เช่นกัน
ทั้งนี้ สพธอ.ยังจับมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทำโครงการ “Digital Tourism” เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่น LINE เพื่อดึงข้อมูลบิ๊กดาต้ามาวิเคราะห์จัดทำนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยว คาดว่าใน 3 เดือนจะได้ข้อมูลสำคัญ 4 ล้านชุด และสร้างช่องทางรับเรื่องร้องเรียนและโปรโมตการท่องเที่ยว ต่อยอด e-Market place
ขณะที่ Cybersecurity Park in EEC ในเขตพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ใน 3 เดือนจะชัดเจนพร้อมเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ EEC ได้ หลังรัฐมนตรีกระทรวงดีอี เห็นชอบหลักการ ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในการพัฒนา ทั้งพื้นที่ EEC และดิจิทัลพาร์ค ซึ่งเป็นโครงการของดีอีที่ตั้งอยู่ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
โดย Cybersecurity Park เป็นการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับอุตสาหกรรมรวมถึงพัฒนาบุคลากรและนวัตกรรม ดำเนินการภายใต้งบประมาณปี 2561 ที่ สพธอ.ได้รับการอนุมัติมา 535 ล้านบาท และเตรียมขออีก 2,381 ล้านบาท
