
Kaidee ลงทุน AI-บิ๊กดาต้า เสริมจุดแข็งอีมาร์เก็ตเพลซ

นายทิวา ยอร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร/เฮดโค้ช Kaidee เว็บไซต์ซื้อ-ขายของออนไลน์ กล่าวถึงผลดำเนินงานของบริษัทในปีที่ผ่านมาว่า มีผู้ใช้งานกว่า 35 ล้านคน มีการเข้าใช้งานกว่า 361 ล้านครั้ง เฉลี่ย 30 ล้านครั้ง/เดือน และมีผู้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น 3.3 ล้านดาวน์โหลด รวม 12 ล้านครั้ง มีลูกค้าใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่นเพิ่มขึ้น 40% มีการขายสินค้ากว่า 1.85 ล้านรายการ เฉลี่ย 5 พันชิ้น/วัน มีมูลค่ามากกว่า 1 แสนล้านบาท และ 5 สิ่งที่มีการค้นหามากที่สุด ได้แก่ 1.honda pcx 2.honda msx 3.Coach 4.Adidas และ 5.บ้านเช่า ส่วนหมวดยอดนิยมที่มีคนเข้ามาใช้งานมากที่สุด ได้แก่ 1.RodKaidee 2.MocyKaidee 3.อสังหาริมทรัพย์ 4.มือถือและแท็บเลต และ 5.อะไหล่รถ ประดับยนต์
ในส่วนของรถขายดี (RodKaidee) มียอดผู้ใช้ 60 ล้านครั้ง เฉลี่ย 5 ล้านครั้ง/เดือน มีรถลงขายกว่า 8 แสนคัน และขายได้ 1.3 แสนคัน เฉลี่ย 11,000 คัน/เดือน รวมมูลค่า 38,500 ล้านบาท ยี่ห้อที่คนค้นหามากสุด ได้แก่ โตโยต้า, ฮอนด้า, อีซูซุ, นิสสัน และมิตซูบิชิ
สำหรับประเภทรถที่ได้รับความนิยมสุด ได้แก่ 1.4WD 2.รถกระบะ 3.รถตู้ 4.Coupe และ 5.CR-V ส่วนในกลุ่มของมอไซค์ขายดี (MocyKaidee) ที่เปิดตัวช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ใช้ 42 ล้านครั้ง มีการประกาศลงขาย 394,000 คัน ขายได้ 102,000 คัน เฉลี่ย 8,500 คัน/เดือน รวมมูลค่า 3,600 ล้านบาท แบรนด์ยอดนิยม ได้แก่ ฮอนด้า, คาวาซากิ, ยามาฮ่า, ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน และดูคาติ ส่วน 5 คำค้นหายอดนิยม ได้แก่ 1.PCX 2.MSX 3.Z800 4.R1 5.KR
สำหรับด้านอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกกลุ่มที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับ 3 มีการเข้าชม 30.4 ล้านครั้ง เฉลี่ย 2.5 ล้าน/เดือน มีการลงขายกว่า 7.6 แสนรายการ ขายได้ 23,000 รายการ มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท ในส่วนของรายได้ในภาพรวมเติบโตถึง 144% โดย 60% มาจากบริการเสริม เช่น การให้ประกาศขายเลื่อนขึ้นไปอยู่ด้านบน โดยเติบโตขึ้น 2 เท่า และโฆษณาแบ่งเป็น 40% เติบโตขึ้น 2.5 เท่า
“ปัจจุบันเราเป็นเบอร์หนึ่งในแพลตฟอร์ม C2C ของประเทศไทย มีมาร์เก็ตแชร์กว่า 90% เนื่องจากความง่ายในการใช้ และความเชื่อมั่น โดยปี 2559 เติบโต 150% ส่วนปี 2560 เราเติบโต 144% แม้จำนวนเปอร์เซ็นต์จะลดลง แต่เม็ดเงินเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป้าหมายในปี 2561 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 150% โดยรายหลักมาจากยานยนต์ อสังหาริมทรัพย์”
นายทิวากล่าวถึงแผนงานในปีนี้ด้วยว่าจะเดินหน้าเข้าสู่การเป็น “มาร์เก็ตเพลซ” เพื่อคนไทยอย่างเต็มรูปแบบ โดยทุกคนทุกอาชีพเข้ามาซื้อ-ขายของออนไลน์บน Kaidee ได้ และเน้นไปที่หมวดที่มีแนวโน้มเติบโต คือ อสังหาริมทรัพย์, เกษตรกรรม และอะไหล่รถ เนื่องจากเริ่มเห็นเกษตรกรใช้ออนไลน์มากขึ้น ส่วนของอะไหล่รถยนต์ประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ด้านผู้ผลิตและส่งออก โดยในต้นไตรมาส 2 จะมีการแยกหมวดหมู่ด้านอสังหาริมทรัพย์ออกมาเหมือนรถขายดี และมอไซค์ขายดี ส่วนหมวดเกษตรและอะไหล่รถยนต์จะแยกออกมาเช่นกันในปีนี้ รวมทั้งหาพาร์ตเนอร์ในลักษณะเดียวกับที่รถขายดีร่วมมือกับ “กรุงศรี ออโต้” คำนวณการผ่อนรถได้ที่หน้าเว็บ และสามารถกู้ได้ทันที เนื่องจากที่ผ่านมาการที่มีกรุงศรีเป็นพาร์ตเนอร์ช่วยให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ในส่วนบริการเดิมจะทำให้ดีขึ้น เช่น รถขายดี เพิ่มหมวดหมู่รถเพื่อการพาณิชย์ เช่น รถบรรทุก, รถตัก, รถเครน เป็นต้น ส่วนมอไซค์ขายดีจะมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์มากขึ้น และเพื่อให้แพลตฟอร์มมีสินค้าคุณภาพมากขึ้นจะมีการตรวจสอบสินค้าทุกชิ้นว่าไม่ผิดกฎหมายหรือผิดศีลธรรม โดยลงทุนแมชชีเลิร์นนิ่งมากขึ้น แม้จะมีมิจฉาชีพน้อยกว่า 0.01% แต่บริษัทก็พยายามให้ความรู้ผู้ใช้ว่าไม่ควรโอนเงินก่อนอีกทั้งช่วยแนะนำกรณีต้องมีการแจ้งความดำเนินคดี รวมถึงลงทุนด้านบิ๊กดาต้า และด้านการบริการ เพื่อสนับสนุนผู้ใช้ให้ลงขายได้เร็ว และง่ายที่สุด
นอกจากนี้ ได้เพิ่มช่องทางการชำระเงินในการซื้อบริการเสริมสำหรับลูกค้า โดยปัจจุบันสามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิต โอนเงินธนาคาร บัตรเติมเงิน รวมทั้งจ่ายผ่านแอปสโตร์ และเพลย์สโตร์ด้วย
“เราพัฒนาระบบหลังบ้านในการใช้แมชชีนเลิร์นนิ่งเพื่อจับภาพสินค้าให้ตรงหมวดหมู่มากขึ้น เนื่องจากมีถึง 264 หมวดหมู่ ลูกค้าบางรายไม่รู้ว่าจะลงหมวดหมู่ไหน โดยระบบจะจับภาพและบอกว่าควรลงหมวดไหน และกำลังเจรจากับกรมขนส่งเพื่อเชื่อมต่อระบบหลังบ้านในการตรวจสอบระบบตัวถังรถยนต์ เพื่อป้องกันมิจฉาชีพด้วย”