‘ทรูมันนี่’ ประกาศเพิ่มระบบปฏิบัติการ Risk intelligence ยกระดับการปกป้องผู้ใช้งานจากความเสี่ยงจากการฉ้อโกงทางดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี AI
วันที่ 3 ธันวาคม 2565 ทรูมันนี่ ผู้ให้บริการทางการเงินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้นำ ‘ระบบปฏิบัติการความปลอดภัยอัจฉริยะสำหรับธุรกรรมการเงินบนอุปกรณ์มือถือ’ (Mobile Fintech Security Intelligence) มาใช้เป็นรายแรกของไทย ภายใต้ความร่วมมือกับ ชิลด์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลก โดยโซลูชันดังกล่าวจะช่วยยกระดับการปกป้องแพลตฟอร์มของทรูมันนี่ไม่ให้เกิดการฉ้อโกงทางดิจิทัลแบบเรียลไทม์
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
นายอธิปัตย์ พลอยพรายแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารความเสี่ยงและตรวจสอบทุจริต บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า ทรูมันนี่ได้เลือกเทคโนโลยีในระบบปฏิบัติการความปลอดภัยอัจฉริยะของชิลด์ที่ถือเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในโลก ซึ่งใช้การประมวลผลข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ รวมไปถึงการประสานความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และโซลูชันของชิลด์ ทำให้สามารถยกระดับการให้บริการไปอีกขั้น
โดยระบบปฏิบัติการความปลอดภัยอัจฉริยะสำหรับธุรกรรมการเงินบนอุปกรณ์มือถือ’ (Mobile Fintech Security Intelligence) ที่ ทรูมันนี่ นำมาใช้ ประกอบด้วยระบบและฟังก์ชันต่าง ๆ อาทิ
• AI-Based Risk Intelligence platform – แพลตฟอร์มความปลอดภัยที่ประสานการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการวิเคราะห์รูปแบบพฤติกรรมเพื่อระบุพฤติกรรมที่เป็นอันตรายแบบเรียลไทม์ รวมถึงระบบตรวจจับหาความเสี่ยงและต้องสงสัยที่อาจมีเพื่อให้เจ้าของบัญชีทำการยืนยันตัวตน หรือปฏิเสธการทำรายการธุรกรรมต้องสงสัยโดยอัตโนมัติ
• Authentication platform – การยืนยันตัวตนของผู้ใช้ พร้อมตรวจจับการยืนยันตัวตนต้องสงสัยแบบเรียลไทม์ พร้อมรองรับรูปแบบการยืนยันตัวตนหลากหลายขั้นตอน อาทิ การใส่รหัสผ่าน, รหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียว (OTP) และการจดจำใบหน้า
• Device fingerprinting – การจดจำเครื่องมือ อุปกรณ์การใช้งาน เช่น โทรศัพท์มือถือ (mobile device) ที่ใช้งาน พร้อมเพิ่มความปลอดภัยผ่านการยืนยันอัตลักษณ์ หากมีการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์หรือระบบของอุปกรณ์ในการเข้าถึงบัญชี
• Biometric KYC – ฟีเจอร์การให้ลูกค้ายืนยันอัตลักษณ์ผ่านใบหน้าที่มีความรวดเร็วและแม่นยำสูง ช่วยปกป้องบัญชีและมอบความมั่นใจในการทำธุรกรรมให้กับผู้ใช้
• Fraud monitoring system – ช่วยให้ทีมงานทรูมันนี่สามารถจัดการความเสี่ยงที่อาจมี โดยยังคงมอบความสะดวกในการทำธุรกรรมที่ลื่นไหลไม่สะดุดแก่ผู้ใช้