“โมบายเอ็กซ์โป”โปรแรงปลุกตลาด เพิ่มพื้นที่รถยนต์ไฟฟ้า-IOTดึงลูกค้า

มหกรรมมือถือเกาะเทรนด์เทคโนโลยี ปรับธีมงาน-เพิ่มพื้นที่ดึง “ไอโอที-รถยนต์ไฟฟ้า” เสริมทัพไฮเทคหวังสร้างสีสันดึงดูดผู้บริโภค ย้ำนวัตกรรมยุคใหม่ไม่ได้มีแค่ “มือถือ” พร้อมผนึกผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบรนด์ดังเปิดตัวเครื่องรุ่นใหม่ และอัดฉีดโปรโมชั่นกระตุ้นลูกค้าเปลี่ยนเครื่อง จับตา “โนเกีย” คัมแบ็ก แต่ไร้เงา “ออปโป้-วีโว่”

นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอ็มวิชั่น ผู้จัดงานมหกรรมโทรศัพท์มือถือ (ไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สภาพเศรษฐกิจโดยรวมและกำลังซื้อในประเทศยังไม่ถึงกับดีขึ้นมากนัก รวมเข้ากับเทคโนโลยีของสมาร์ทโฟนในช่วงนี้ยังไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นพอที่จะดึงดูดให้ผู้บริโภคเปลี่ยนโทรศัพท์เครื่องใหม่ จึงประเมินว่างานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 2018 ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 15-18 ก.พ. 2561 นี้ น่าจะมียอดเงินสะพัดไม่แตกต่างไปจากการจัดงานครั้งที่ผ่านมามากนัก แม้จะจัดขึ้นในช่วงเทศตรุษจีน ทำให้คาดว่าจะมียอดเงินสะพัดที่ 1,900 ล้านบาท และมีผู้เข้าชมงานประมาณ 700,000 คน

สำหรับงานปีนี้มาในธีม “Mobile Related Expo” จากการติดตามเทรนด์เทคโนโลยีในงาน CES 2018 ล่าสุด ซึ่งถือเป็นงานเทคโนโลยีระดับโลกที่จัดขึ้นเป็นประจำช่วงต้นปี จะพบว่าปีนี้เป็นปีแห่งเทคโนโลยี IOT (internet of things) จึงจะไม่ได้มีแค่สมาร์ทโฟน แต่ขยายขอบเขตไปยังสินค้าอื่น ๆ ที่สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้ พร้อมทั้งเพิ่มพื้นที่การจัดงานโซน C ชั้น 1 ได้พื้นที่เพิ่มมากกว่า 5,000 ตารางเมตร สำหรับจำหน่ายสินค้า IOT, มีโซนกล้อง (camera zone) ที่มีกล้อง และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ให้เลือกได้ ทั้งมี “EV zone” สำหรับแสดงรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (electronics vehicle) หรือรถยนต์ EV เป็นครั้งแรกในประเทศไทย มี EV box หรือเครื่องชาร์จไฟฟ้าอัจฉริยะสำหรับชาร์จไฟฟ้าให้ EV car โดยจะมีรถ EV มาโชว์ในงาน 3 แบรนด์

นอกจากนี้ยังจะมีโซนสัมมนาเรื่องเกี่ยวกับเรื่อง “บิตคอยน์” (bitcoin) จากกูรูตัวจริงในแวดวงของบิตคอยน์มาประเทศไทยตลอดทั้ง 4 วันด้วย เพราะเป็นเรื่องในกระแสที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก ส่วนสมาร์ทโฟนแบรนด์ต่าง ๆ ที่แตกต่างไปจากครั้งที่ผ่านมา คือ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบรนด์จีน ทั้ง “ออปโป้” และ “วีโว่” ไม่ได้มาร่วมงานด้วย ต่างจากครั้งก่อน ๆ ที่เคยมีพื้นที่ขนาดใหญ่ จึงเป็นไปได้ว่าทั้งคู่อาจกำลังปรับแผนการทำตลาดใหม่ หลังจากบุกอย่างหนักช่วงที่ผ่านมา ขณะที่แบรนด์จีนอื่น ๆ ยังมากันครบ เช่น เสี่ยวมี่, นูเบีย และหัวเว่ย โดยเฉพาะ “หัวเว่ย” ยังเป็นบูทหลักที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่

เช่นกันกับ “ซัมซุง” ได้เพิ่มพื้นที่ให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม เพราะไม่ได้มีแค่สมาร์ทโฟน แต่มีผลิตภัณฑ์ IOT หลากหลายประเภท อีกแบรนด์ที่น่าจับตา คือ “โนเกีย” เนื่องจากใช้พื้นที่บูทใหญ่ขึ้นกว่าปีก่อน ๆ เช่นกัน อาจเพราะเป็นแบรนด์เดียวที่ราคาสมาร์ทโฟนมีการปรับขึ้นตลอด และมีฐานแฟนคลับที่ยังเหนียวแน่น

นายโอภาสกล่าวด้วยว่า ในงานจะมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อีกประมาณ 7 รุ่น ได้แก่ ซัมซุง Galaxy A8, A8+, Galaxy J2 (2018), โซนี่ Xperia L2, Xperia XA2 Ultra, โนเกีย 6 (2018) เป็นต้นโดยแต่ละแบรนด์จะมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสินค้ารุ่นเรือธงของตนเอง

“ราคาเฉลี่ยของสมาร์ทโฟนที่คาดว่าจะขายดีในงานนี้ น่าจะอยู่ที่ 13,000-15,000 บาทขึ้นไป โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ เพราะจะมีโปรโมชั่นที่ค่อนข้างดึงดูดให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนรุ่นรอง ๆ ลงไปเปลี่ยนเครื่องใหม่ ซึ่งผู้บริโภคปัจจุบันจะเปลี่ยนเครื่องใหม่หลังใช้งานมาแล้ว 1-2 ปี และมักเปลี่ยนเครื่องรุ่นที่มีราคาสูงขึ้นเสมอด้วย”