“บลูบิค” สยายปีกขยายธุรกิจเวียดนาม ปักหมุดยุทธศาสตร์สร้างรายได้ต่างประเทศรับดีมานด์เทคโนโลยีทะลัก หลังรัฐบาลเวียดนามประกาศเร่งเครื่องสนับสนุนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันจริงจัง
วันที่ 10 มกราคม 2566 รายงานข่าวจากบริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ที่ปรึกษา และผู้ให้บริการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้ารุกขยายตลาดต่างประเทศ ล่าสุดจัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท บลูบิค (เวียดนาม) จำกัด ในประเทศเวียดนาม เพื่อรองรับความต้องการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันเติบโตสูง หลังรัฐบาลเวียดนามประกาศแผนพัฒนา Digital Transformation อย่างจริงจัง พร้อมผลักดันการใช้งานระบบเครือข่าย 5G ภายในปีหน้า
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK เปิดเผยว่า
บริษัทเห็นโอกาสรับงานต่อเนื่อง ผนวกกับได้บุคลากร Tech Talent จากหน่วยงาน Digital Delivery จาก MFEC เข้ามาเสริมทัพ จึงปักหมุดเวียดนามเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการสร้างรายได้ โดยตั้งเป้าไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ในปี 2566
“การจะบรรลุเป้าหมายการเติบโตก้าวกระโดด ทำให้บริษัทให้ความสำคัญในการขยายฐานลูกค้าผ่านการทำตลาดทั้งแบบแนวตั้งที่มุ่งขยายฐานลูกค้าขนาดใหญ่สู่ขนาดกลาง และแบบแนวนอนด้วยการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ ผ่านการให้บริการที่หลากหลาย และครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมา ได้ขยายตลาดสู่ต่างประเทศต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในประเทศอังกฤษ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย จนมาถึงเวียดนาม”
โดยเวียดนามเป็นประเทศที่กำลังได้รับการจับตามองจากนักลงทุนทั่วโลก สะท้อนผ่านจำนวนเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่อยู่ระดับสูง ทั้งภาพรวมของเศรษฐกิจเวียดนามยังเติบโตท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดย GDP ของเวียดนามในปี 2565 เติบโตถึง 8.02%
นอกจากนี้ การสนับสนุนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันจากภาครัฐที่มีเป้าหมายนำเทคโนโลยีและดิจิทัลเข้าไปพัฒนาระบบของทุกอุตสาหกรรม รวมถึงการขยายเครือข่ายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตระดับครัวเรือนให้ครอบคลุม 80% ของประเทศนั้น จะเป็นกลไกสำคัญที่กระตุ้นให้ความต้องการนำเทคโนโลยีไปใช้งานทั้งภาครัฐและเอกชนในเวียดนามเป็นไปอย่างน่าสนใจ
“บริษัททำศึกษาโอกาสทางธุรกิจในเวียดนาม ผ่านการรับงานในโครงการออกแบบสถาปัตยกรรมระบบให้สถาบันการเงินแห่งหนึ่ง จึงพบว่าเวียดนามยังมีความต้องการในการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันอีกมากจากการสนับสนุนของภาครัฐและภาคเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวจากโควิด จึงเป็นโอกาสขในการเข้าไปทำตลาด โดยเฉพาะบริการส่วนงานด้านพัฒนาซอฟต์แวร์ และระบบดิจิทัลแพลตฟอร์ม”
นายพชรเชื่อว่า บริษัท บลูบิค (เวียดนาม) จำกัด ที่เพิ่งตั้งเมื่อ พ.ย.2565 และการเข้าซื้อหน่วยงาน Digital Delivery ของ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC เมื่อต้นเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา จะรองรับความต้องการดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
จากประสบการณ์การทำงานระดับสากลของบลูบิค ผนวกกับจำนวนผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นจาก 350 คน เป็น 780 คน หลังบรรลุผลสำเร็จตามแผนการควบรวมกิจการ 2 บริษัทเทคขนาดใหญ่ช่วงต้นเดือนธ.ค. ได้แก่ หน่วยธุรกิจของ MFEC และบริษัท อินโนวิซ โซลูชั่นส์ จำกัด (Innoviz Solutions) ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญการวางระบบ Microsoft Dynamics 365 – ERP ทำให้บริษัทมีความพร้อมในการให้บริการ และรุกตลาดเวียดนามจริงจัง และเชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนรายได้จากตลาดต่างประเทศ ที่คาดว่าจะมีสัดส่วน 10 – 20% ของรายได้รวมในปี 2566
สำหรับ 9 เดือนแรกปี 2565 มีรายได้ 425 ล้านบาท เติบโตขึ้นราว 115% มีกำไรสุทธิแตะ 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 119% โดยมีรายได้จากต่างประเทศกว่า 42 ล้านบาท มีสัดส่วนราว 10% ของรายได้รวม ซึ่งการเติบโตต่อเนื่องทั้ง 3 ไตรมาส ผนวกกับยอดรอรับรู้รายได้จากแบ็คล็อก (Backlog) สะสมอีก 431 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของบริษัท และความสำเร็จจากการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ 3 ปีที่ต้องการเติบโตอย่างน้อยปีละ 70%
