ถึงเวลาเติมความรู้ ปรับธุรกิจสู่ดิจิทัลแล้วหรือยัง ?

อีคอมเมิร์ซ
คอลัมน์ : Pawoot.com
ผู้เขียน : ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ

โลกของอีคอมเมิร์ซเปลี่ยนไปมากขนาดไหน ดูกันตั้งแต่แรกเริ่มที่ผมได้เข้ามาสัมผัสโลกของอีคอมเมิร์ซเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ช่วงเวลาที่คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตเพียงแค่หลักแสน หรือหลักหมื่นคนเท่านั้น แตกต่างกับปัจจุบันที่มีคนใช้อินเทอร์เน็ตถึง 40-50 ล้านคนด้วยซ้ำไป

การขายของกับคนยี่สิบปีก่อน กับการขายของกับคน 50 ล้านคนในวันนี้คนละเรื่องเลย รวมไปถึงการขายของที่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโลกออนไลน์ นั่นหมายถึงเรากำลังขายของให้คนหลายพันล้านคน

ฉะนั้น โอกาสทางธุรกิจนั้นคนละเรื่องกันเลย

ยิ่งยุคนี้หลังโควิดที่ทุกคนดูหนัง ฟังเพลง ซื้อของ ฯลฯ ใช้ออนไลน์กันหมด ออนไลน์ไม่ใช่ทางเลือกอีกแล้ว แต่คือทางหลักที่คนทำธุรกิจต้องเข้าใจและต้องนำมาใช้ หลายคนอาจยังเข้าใจแบบผิวเผิน ยังไม่รู้ว่าจะนำมาใช้กับธุรกิจได้อย่างไร

ยุคนี้องค์กรต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้บริหารจำเป็นต้องเข้าใจ เพราะพฤติกรรมต่าง ๆ ของคนเปลี่ยนไป ลองกลับไปถามตัวเองหรือคนรอบข้างว่าเวลาจะซื้อสินค้าใช้ช่องทางไหน จะได้คำตอบว่าทุกคนจะหยิบมือถือขึ้นมาค้นหาสินค้าและชำระครบจบเลย แล้วการค้นหาสินค้านั้น ๆ สินค้าของเราถูกค้นเจอหรือไม่ ผมว่านี่เป็นความท้าทายของคนทำธุรกิจยุคนี้

โดยเฉพาะผู้ใหญ่หลาย ๆ คนที่เป็นผู้บริหาร ที่เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลแล้วแต่ยังปรับตัวไม่ทัน เพราะไม่ได้เติบโตมาในยุคดิจิทัล เมื่อต้องการจะไปหาความรู้ก็ไม่รู้ว่าจะไปหาได้จากที่ไหน และไม่มีที่ไหนจะมาสอนในระดับผู้บริหาร ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะสอนให้ทำแบบลงลึกไปเลย นี่คือปัญหาหนึ่งเลย

ผมเล็งเห็นถึงปัญหานี้ จึงพัฒนาหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยศรีปทุม เป็นหลักสูตรที่จะสอนผู้ประกอบการ หรือผู้ที่ทำธุรกิจให้เตรียมพร้อมตัวเองรับมือกับการเปลี่ยนแปลง สามารถสั่งงานลูกน้องได้ บางคนที่เคยจ้างเอเยนซี่ก็ต้องจ่ายเงินไปมากมายแต่ไม่ได้ผล นั่นคือปัญหาของการที่ดิจิทัลมาแล้วแต่ผู้บริหารไม่สามารถปรับตัวเข้าสู่ยุคนี้ได้

หลักสูตร DEF รุ่นที่ 8-9 เปิดรับแล้วจำนวน 120 คน แบ่ง 10 กลุ่ม มีโค้ชประกบทุกกลุ่ม เริ่มเรียน 16 มีนาคม-13 กรกฎาคม 2566 ทุกวันพฤหัสบดี ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม บางเขน (สอบถามข้อมูลได้ที่ DEF Team โทร. 06-3245-9491 | LINE@: @defbyspu | Facebook :DEFbySPU)

หากผู้บริหารระดับสูง หรือผู้บริหารไม่เข้าใจเวลาที่ลูกน้องมาเสนออะไรแล้วต้องแกล้งเข้าใจเออออห่อหมก หรือปฏิเสธไปโดยที่ไม่รู้ไม่เข้าใจอันตรายมาก ๆ

ฉะนั้น สิ่งที่ดีที่สุดคือเราต้องพอเข้าใจ พอทำเป็น หรือพอรู้ว่าเป็นอย่างไร เมื่อเรารู้แล้วเราจะสามารถสั่งการ หรือนำมาใช้กับธุรกิจของเราได้อย่างแม่นยำและเกิดประโยชน์สูงสุด

ผมทำงานด้านดิจิทัลมา 20 กว่าปี เดินสายสอนคนเยอะมาก เจอผู้บริหารหลายท่าน ทำให้ตั้งใจว่าการที่ประเทศไทยเราจะเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ใช่จากการทำการเกษตร แต่ต้องทรานส์ฟอร์มประเทศ อย่างแรกคือทรานส์ฟอร์มเจ้าของกิจการหรือผู้บริหารก่อน

ผมจึงเดินไปคุยกับท่านผู้บริหารกับมหาวิทยาลัยศรีปทุมว่า ต้องการทำหลักสูตรที่ไม่ใช่เป็นการสอนแบบเดิม ๆ ชื่อ DEF by SPU เน้นพัฒนาผู้ประกอบการ ผู้ที่ทำธุรกิจ หรือผู้บริหารให้เข้าใจเรื่องดิจิทัล ทำเป็นรุ่นที่ 8 แล้ว

โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศด้านดิจิทัลมาเป็นวิทยากร เพราะเชื่อเสมอว่าการเรียนที่ดีต้องไม่ใช่การนั่งฟังอย่างเดียว หลักสูตรจึงเป็นการเรียน และมี workshop เป็นเคสจากธุรกิจจริง ให้ปฏิบัติจริง เช่น การใช้เครื่องมือ social listening ให้แอบฟังว่ามีใครพูดถึงสินค้าเราบ้าง เพื่อนำมาพัฒนาสินค้า หรือจะได้ไม่ถูกลูกน้องหลอกได้ สอนไลฟ์ขายของ สอน TikTok สอนการทำหนังโฆษณาสั้น เป็นต้น

เป็นการทำจริง มีคนมาช่วยจริง เห็นผลลัพธ์จริง เป็นโจทย์จากธุรกิจจริง สินค้าจริง ขายจริง และระหว่างที่เรียนหากมีข้อสงสัย ผมเชิญโค้ชระดับประเทศมาให้คำปรึกษา ซึ่งจะอยู่ตลอดทั้งหลักสูตร ที่ผ่านมาคนที่มาเรียนมีตั้งแต่ซีอีโอระดับประเทศ ตั้งแต่ไม่รู้เรื่องออนไลน์เลย แล้วสามารถกลับไปพูดคุย สั่งงานกับทีมงานได้อย่างเข้าใจ พัฒนาองค์กรให้เข้าสู่ออนไลน์ได้ เช่น คุณนภัสนันท์ พรรณนิภา หรือคุณตุ๊ก CEO TQM, CEO ร้านทอง aurora, คุณวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กลุ่มสามารถ ฯลฯ

ต้องถามตัวเองว่าวันนี้ธุรกิจของคุณปรับตัวเข้าสู่ออนไลน์หรือยัง มีทีมที่ทำออนไลน์หรือยัง ในฐานะผู้บริหารเราเข้าใจเรื่องออนไลน์มากแค่ไหน หรือใช้เป็นหรือไม่ เพราะการแข่งขันของธุรกิจปัจจุบันไม่ได้แข่งแค่เฉพาะกับคนไทย แต่เราแข่งกับต่างชาติ อย่างจีนที่บุกเข้ามาขายในบ้านเรา ถ้าไม่เติมความรู้ ผมว่าน่ากลัวมาก