แก็ดเจต-อุปกรณ์เสริมบูมต่อ เทรนด์รักสุขภาพ-“ไอโอที” ปลุกตลาดโต

ตลาดอุปกรณ์เสริม-แก็ดเจต ยังโตต่อ เทรนด์รักสุขภาพดันกลุ่มสินค้าแนวสปอร์ตเฟื่องฟู เฉพาะหูฟังโตทะลุ 200% “แท่นชาร์จไร้สาย-โฮมออโตเมชั่น-ไอโอที” เป็นดาวรุ่งปีนี้ “อาร์ทีบีฯ” อัดฉีดกิจกรรมกระตุ้นตลาดเต็มสตรีม หวังดันยอดขายโต 40% ฟาก “โคแอน” ขยายไลน์-แบรนด์สินค้าใหม่ พร้อมควัก 10 ล้าน โหมออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง ขณะที่ “DJI” เดินหน้าปลุกตลาด “โดรน” ภาคธุรกิจ

นายบรรพจน์ วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด ผู้นำเข้าสินค้ากลุ่มอุปกรณ์เทคโนโลยี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การแข่งขันในตลาดอุปกรณ์เสริมในปีนี้ยังดุเดือด และกำลังซื้อของผู้บริโภคยังต้องมีโปรโมชั่นช่วยกระตุ้น แต่ในตลาดไฮเอนด์มีแนวโน้มดีต่อเนื่องและปีนี้ยังตั้งเป้ายอดขายเพิ่มอีก 20-30% โดยจะเน้นการตลาดที่เข้มข้น ขณะที่ปี 2560 บริษัทเติบโต 40% จากการนำเข้าสินค้าแบรนด์ใหม่จำนวนมาก

“ปีที่ผ่านมา สัดส่วนรายได้ของเรามาจากช่องทางออฟไลน์ 90% ออนไลน์เพียง 5% แต่โตจากปีก่อน จากนี้จะโปรโมตผ่านอีมาร์เก็ตเพลซรายใหญ่ที่คนรู้จักอย่าง Lazada มากขึ้น”

ตลาดไฮเอนด์ยังโต

สำหรับสินค้าที่ขายดีปีที่แล้ว คือกลุ่มลำโพง และหูฟัง B&O PLAY แบรนด์พรีเมี่ยมเน้นดีไซน์ มีสัดส่วนราว 15% ของยอดขาย อีก 10-13% มาจากหูฟังบลูทูท Jabra สำหรับกลุ่มรักการออกกำลังกาย คาดว่าปีนี้ทั้งคู่จะยังขายดี

ส่วนสินค้าที่มีโอกาสขายดีเพิ่มขึ้น คือแท่นชาร์จไร้สาย (wireless charger) หลังจากมี iphone X และ Note 8 ที่ใช้ wireless charger ได้ออกมากระตุ้น “B&O PLAY ปีนี้น่าจะโตขึ้น 20-30% ส่วน Jabra โต 10% ขณะที่ ENERGEA จะโตขึ้น 20-30%”

ส่วนสินค้าใหม่ปีนี้จะมี “กล้อง 360 องศา” แบรนด์ instar 360 เข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติม มีจุดเด่นคือถ่ายได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ 4k ได้ 360 องศา ต่อเข้ากับไม้เซลฟี่ ถ่ายภาพมุมสูงให้ความรู้สึกเหมือนถ่ายจากโดรนได้

เทรนด์รักสุขภาพดันตลาดโต

ด้านนายลักษณ์วัตร์ เหรียญเจริญสุข ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท โคแอน จำกัด (KOAN) ผู้นำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟน และแก็ดเจต เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมตลาดอุปกรณ์เสริม และแก็ดเจตในไทยปี 2560 โตขึ้นราว 10% จากกระแสความนิยมในโดรน และกลุ่มหูฟังแนวสปอร์ต จากความตื่นตัวเรื่องการออกกำลังกายของผู้บริโภคไทยที่ทำให้ตลาดหูฟังโตกว่า 200%

ขณะที่ปีนี้กำลังซื้อเริ่มฟื้นและผู้ซื้ออยากได้ของมีแบรนด์จึงยอมจ่ายแพงกว่าแทนการซื้อของหิ้วหรือหนีภาษีที่ไม่มีการรับประกันสินค้า ทำให้ปีนี้แต่ละแบรนด์น่าจะแข่งกันมากขึ้นแต่กล้อง GoPro และโดรนที่ฮิตมากในปีก่อน น่าจะถึงจุดพีกสุด ปีนี้่โตไม่มาก

สำหรับผลประกอบการของบริษัทโตแค่ 10% จากที่หวังจะโต 20-30% ด้วยภาวะเศรษฐกิจและไม่มีสินค้าไฮไลต์ เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ “โฮมออโตเมชั่น” ยังไม่พร้อมทำตลาด เพราะส่วนใหญ่ยังไม่รองรับการใช้งานในไทย แต่ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 20-30%

HomePod ดันโฮมออโตเมชั่นโต

และปีนี้อุปกรณ์ชาร์จไร้สายน่าจะขายดี ทั้งคาดว่า apple HomePod จะช่วยดันกลุ่มโฮมออโตเมชั่นให้ได้รับความนิยม ส่วนตลาดโดรนด้วยกฎการลงทะเบียนของภาครัฐ มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของมือสมัครเล่น ตลาดจึงซบเซาทำให้โดรนกลายเป็นสินค้าสำหรับมือโปร ไม่ใช่สำหรับผู้บริโภคทั่วไป

ขณะที่ยังโฟกัสตลาด B2C เน้นกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลัก เพิ่มสินค้าให้หลากหลายทั้งในแง่ผลิตภัณฑ์และแบรนด์เพื่อกระจายความเสี่ยง และขยายช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยวางงบประมาณไว้ 10 ล้านบาท

DJI ดันตลาดโดรนต่อ

ขณะที่นายเควิน ออน ผู้อำนวยการด้านการสื่อสาร บริษัท DJI จำกัดผู้ผลิตโดรนรายใหญ่ภายใต้แบรนด์DJI เปิดเผยว่า ตลาดโดรนในไทยเติบโตติดอันดับ 5 ในเอเชีย ทั้งยังโตได้อีกมาก จากไลฟ์สไตล์ที่ชอบกินเที่ยวและถ่ายรูปเพื่อแชร์ในโซเชียลมีเดีย รวมถึงโอกาสเติบโตในกลุ่มที่ใช้ในธุรกิจ จึงเน้นทั้งกลุ่มผู้บริโภคและลูกค้าเอ็นเตอร์ไพรส์

“กฎของภาครัฐที่บังคับให้มีการลงทะเบียนการใช้โดรน ไม่น่ามีผลกระทบ เพราะในหลายประเทศมีการบังคับเช่นกัน”