“สมคิด”ดันไอเดีย”สตาร์ตอัพคลับ” ทรูขานรับเท 700 ล้าน ดึงเด็กมัธยมสร้างอินโนเวชั่น

รองนายกฯ “สมคิด” ชี้ได้เวลาปรับโฉมธุรกิจสู่ยุค “Entrepreneur Economy” เดินหน้ากระตุ้นภาคเอกชนลงขันลงแรงสร้าง “สตาร์ตอัพ” เจาะลึกถึงระดับมัธยมศึกษา นำร่อง “สตาร์ตอัพคลับ” ตั้งเป้าปลดล็อกกับดักเศรษฐกิจประเทศ ฟาก “กลุ่มทรู” ขานรับทันที พร้อมดันแพลตฟอร์ม “ทรูแล็บ” ใน 10 มหาวิทยาลัยช่วยหนุน และเตรียมอัดฉีดงบประมาณเพิ่มจาก 300 ล้านบาท เป็น 700 ล้านบาท

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษในงาน Smart Thailand 2017 ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยดิจิทัลสู่การแข่งขันระดับโลกว่า แม้จีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ) ในไตรมาสแรกของประเทศไทยในปี 2560 นี้จะอยู่ที่ 3.3 เติบโตสวนทางกับประเทศอื่น ๆ แต่ยังถือว่าไม่น่าพึงพอใจเพราะยังติดกับดักเศรษฐกิจในหลายด้าน และปัจจุบันเทคโนโลยีเริ่มเข้ามาเปลี่ยนแปลงธุรกิจขนานใหญ่ เปลี่ยนรูปแบบการผลิต เปลี่ยนการดีไซน์ เปลี่ยนซัพพลายเชนทั่วโลก เป็นยุคที่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจให้เป็นเศรษฐกิจของผู้ประกอบการ (Entrepreneur Economy) สนับสนุนให้คนที่มีความคิดในการผลิต Value Product ได้ผลิตสิ่งที่ตนเองคิดขึ้นมา ทำให้เป็นธุรกิจค้าขายได้จริง แม้จะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก แต่ถ้ามีจำนวนเป็นแสน ๆ ล้าน ๆ ก็ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจได้ นั่นคือระบบเศรษฐกิจแห่งอนาคต ซึ่งในอดีตทำไม่ได้เพราะเป็นแมนูแฟคเจอริ่งเบส ต้องมีทุนมีเงิน แต่สมัยนี้อยู่ที่ “ไอเดีย” แค่เริ่มคิดงานสร้างสรรค์ ก็มีทุนพร้อมจะเข้ามาสนับสนุนแล้ว และนี่คือสิ่งที่ควรจะสร้าง ถ้าสตาร์ตอัพเยอะ ก็มี SMEs เยอะ แล้วหนุนให้กลายเป็น Smart SMEs ที่กลายเป็นธุรกิจใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น

“จีดีพีไทยยังเบ่งไม่ออก เพราะนี่ไม่ใช่ยุคของแมนูแฟกเจอริ่งแล้ว แต่เป็นธุรกิจที่ครีเอตมูลค่าจากแพลตฟอร์มที่มีอยู่ทั้งนั้น เป็นอินเทอร์เน็ตเบส สิ่งที่จะเอื้อให้เกิดได้คือต้องมีความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม รวมถึงเทคโนโลยี”

รัฐบาลจึงได้ผลักดันแนวคิดการสร้าง “สตาร์ตอัพคลับ” สำหรับเด็กระดับมัธยมศึกษา ซึ่งเป็นวัยที่มีความคิดสร้างสรรค์ ให้มีพื้นที่ได้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ ๆ ตั้งแต่ก่อนที่จะเข้าไปสู่ระดับมหาวิทยาลัยที่ปัจจุบันมีหลายโครงการอบรมบ่มเพาะสตาร์ตอัพให้อยู่แล้ว

“ผมหวังว่าเอกชนจะเข้ามาช่วยสนับสนุนให้เด็ก ๆ ได้มีเครื่องมือในการได้สัมผัสกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ อยู่ตามโรงเรียนต่าง ๆ ที่นายกรัฐมนตรีให้ลดเวลาเรียนคาบบ่ายลงก็เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ใช้เวลากับสตาร์ตอัพคลับ เด็กคนไหนมีแววก็ส่งมาเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ได้เข้าสตาร์ตอัพคลับต่อในระดับมหาวิทยาลัย ยังไม่ทันเรียนจบก็จะสามารถคิดค้นธุรกิจใหม่ ๆ ได้ หลายสถาบันการเงินก็เริ่มจัดโครงการแบบนี้แล้ว ถึงเวลาที่เราต้องตื่นตัว ตื่นมาดูบ้างว่าโลกไปถึงไหนแล้ว เพื่อสร้างผู้ประกอบการใหม่ให้ทำธุรกิจได้ เพราะยิ่งสร้างสตาร์ตอัพเยอะ ก็จะยิ่งมี SMEs เยอะ เมื่อเราเสริมแกร่งให้กับกลุ่มนี้ก็จะเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศได้”

ขณะเดียวกัน หน้าที่ภาครัฐคือการทำให้โครงสร้างพื้นฐานครอบคลุมอินเทอร์เน็ต ทุกหมู่บ้านต้องมีอินเทอร์เน็ตเกตเวย์เชื่อมต่อต่างประเทศให้พร้อมที่เอกชนและภาคประชาชนจะนำไปต่อยอดทางธุรกิจได้

ด้านนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) และประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า กลุ่มทรูพยายามจะเป็นจุดเชื่อมโยงให้แต่ละอุตสาหกรรมที่มีองค์ความรู้ในการนำประเทศไทยไปสู่ยุค 4.0 และดิจิทัลอีโคโนมีได้มาแบ่งปันความรู้ พร้อม ๆ กับการขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้เติบโตไปพร้อมกัน ทั้งในประเทศและการเชื่อมโยงไปต่างประเทศ รวมถึงการขยายการลงทุนสนับสนุนตามนโยบายสตาร์ตอัพไทยแลนด์ โดยทางกลุ่มบริษัทจะมีการขยายทั้งในแง่ของวงเงินและจำนวนของกองทุนเพื่อให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น ทั้งในระดับมหาวิทยาลัย รวมถึงการตั้งสตาร์ตอัพคลับในระดับมัธยมศึกษา เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจ ความสนใจแก่คนรุ่นใหม่ที่เชื่อมโยงกับความเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างเท่าทัน

สำหรับงบประมาณที่เตรียมไว้ของกลุ่มทรูจะอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาท ที่ผ่านมาได้ลงไปแล้วราว 100 ล้านบาท แต่เตรียมขยายงบประมาณเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว ๆ 700 ล้านบาท แล้วจะขยับขึ้นไปเรื่อย ๆ ในส่วนของสตาร์ตอัพคลับ ซึ่งจริง ๆ กลุ่มทรูมีแพลตฟอร์มอยู่แล้ว และมี “ทรูแล็บ” อยู่แล้วใน 10 มหาวิทยาลัย ดังนั้น การจะลงไปในระดับมัธยมศึกษาจึงน่าจะเกิดขึ้นได้ภายในปีนี้