อีคอมเมิร์ซไทยทะลุเดือด หลังยักษ์ข้ามชาติทุ่มไม่อั้นถล่มแคมเปญยึด “อีมาร์เก็ตเพลสไทย” “อาลีบาบา-เทนเซ็นต์” ซัดกันหนัก “ภาวุธ” ชี้มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยปี 2561 ทะลุ 3 ล้านล้านบาทแน่ โต 25% แนะจับตาแบงก์ไทยร่วมแจมค้าขายออนไลน์สร้างสีสันดูดกำลังซื้อ “ตลาดดอทคอม” ดิ้นปรับโมเดลธุรกิจดึงบริษัทในเครือทีซีซีของตระกูลสิริวัฒนภักดี พลิกเกม
สู้สมรภูมิออนไลน์ไทย
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดดอทคอม จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซไทยในปีนี้จะยังคงแข่งขันกันดุเดือด โดยเฉพาะจากผู้ประกอบการรายใหญ่จากต่างชาติที่รุกหนักเต็มตัว ทั้งอาลีบาบาที่ได้ประกาศลงทุนเพิ่มในลาซาด้า สำหรับบุกตลาดอาเซียนอีก 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมที่ลงทุนไปแล้วก่อนหน้านี้ 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ JD.com ร่วมมือกับเซ็นทรัลกรุ๊ป เปิด JD.co.th เพื่อบุกตลาดไทย
ขณะที่ Shopee ผู้ให้บริการรายใหญ่อีกรายก็รุกหนักมากขึ้น เห็นได้ชัดจากการโหมโปรโมตแบรนด์ผ่านช่องทางต่าง ๆ และแคมเปญการตลาดอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในปี 2561 ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยน่าจะเติบโตได้ถึง 25% จากที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 20% ซึ่งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ.ระบุว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซในปี 2560 มีมูลค่าราว 2.8 ล้านล้านบาท และคาดว่าในปี 2561 จะไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านบาท
“ปกติตลาดอีคอมเมิร์ซไทยโต 15-20% แต่ปีนี้แข่งขันดุเดือดทำให้เติบโตได้ถึง 25% แน่ แม้จะดูเพิ่มไม่มาก แต่เป็นการเพิ่มที่ชดเชยมูลค่าตลาดที่จะหายไปจากการล้มหายตายจากของผู้ประกอบการโลคอลบางส่วน เพราะยักษ์ต่างชาติเล่นกันหนักมาก แม้แต่กลุ่มทรูยังถอยออกจากตลาดไปแล้ว หรือผู้เล่นจากเกาหลีใต้อย่าง 11street ก็เหนื่อย เป็นปีที่ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซต้องปรับตัวอย่างหนัก รวมถึงตลาดดอทคอมเองด้วย ก็ต้องปรับตัวเช่นกัน ตนมองอยู่ว่าปีนี้แบรนด์หรือห้างไหนที่ยังไม่เริ่มเน้นช่องทางออนไลน์จะอยู่รอดยาก”
สำหรับการเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหญ่จากต่างชาติที่ต้องจับตาต่อไป คือ “อเมซอน” เพราะเป็นรายเดียวที่มีศักยภาพมากพอที่จะแข่งขันกับอาลีบาบา และ JD.com ได้ ล่าสุดประกาศลงทุนในเวียดนามแล้ว หลังเปิดให้บริการส่งสินค้าด่วน “Amazon Prime Now” ไปแล้วที่สิงคโปร์ เชื่อว่ากำลังศึกษาการลงทุนอีคอมเมิร์ซในตลาดไทยด้วยเช่นกัน
“ตลาดไทยยังน่าสนใจเพราะเติบโตสูง แต่ก็แข่งขันสูง จึงอาจเป็นสาเหตุให้อเมซอนเลือกลงทุนในเวียดนามก่อน เพื่อใช้เป็นฐานบุกอาเซียน เพราะเป็นตลาดที่มีโอกาสชนะมากกว่าในไทย ที่จีนครองตลาดอยู่ ปีนี้จึงมองว่าถ้าอเมซอนยังไม่มาไทยก็คงยากที่เจ้าอื่นจะมา เพราะตอนนี้เป็นสมรภูมิดุเดือดระหว่างอาลีบาบากับเทนเซ็นต์ เพราะผู้ถือหุ้นใหญ่ใน JD.com คือเทนเซ็นต์ รวมถึง Shopee เองก็มีเทนเซ็นต์ถือหุ้นเหมือนกัน เพราะเทนเซ็นต์เข้าไปถือหุ้นหลักใน Sea บริษัทแม่ Shopee จึงเหมือนเป็นศึกระหว่างอาลีบาบากับเทนเซ็นต์”
ขณะที่ฝั่งผู้ประกอบการไทย นายภาวุธกล่าวว่า ที่น่าจับตาที่สุดปีนี้คือกลุ่มธนาคาร ซึ่งได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้แล้ว จึงน่าจะเห็นสีสันการทำตลาดมากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีทั้งฐานลูกค้าและเครื่องมือทางการเงินในมือ จึงน่าจะช่วยกระตุ้นการซื้อได้มาก
นายภาวุธกล่าวด้วยว่า ปีนี้ตลาดดอทคอมจะกลับมาเป็นดาวรุ่งในตลาดอีคอมเมิร์ซอีกครั้งอย่างแน่นอน หลังจากได้มีการปรับรูปแบบธุรกิจใหม่ แต่ขณะนี้ไม่สามารถบอกรายละเอียดอะไรได้มากนัก เนื่องจากจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 มี.ค.นี้ โดยจะเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทอเดลฟอส และตลาดดอทคอม
สำหรับบริษัท อเดลฟอส จำกัด บริษัทภายใต้กลุ่มทีซีซีของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี โดยมี นายฐาปน สิริวัฒนภักดี และนายปณต สิริวัฒนภักดี เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ฝ่ายละ 50%