ไปรษณีย์ไทยเพิ่มรถนำจ่าย บริการ 24 ชม. ขยับแชร์ขนส่ง

“ไปรษณีย์ไทย” เร่งเพิ่มรายได้บริการขนส่งอีก 18% รับ “อีคอมเมิร์ซบูม” ดันตลาดรวมโตทะลุ 2.5 หมื่นล้านบาท พร้อมตั้งเป้าขยับมาร์เก็ตแชร์จาก 52% เป็น 55% ภายในสิ้นปี จัดหนักทั้งเพิ่มรถนำจ่าย 800 คัน เปิดบริการ 24 ชั่วโมงอีก 10 แห่ง

นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจขนส่งชิ้นย่อยและชิ้นใหญ่เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ 52% ให้เป็น 55% ทั้งเพิ่มรายได้จากธุรกิจขนส่งจากเดิมในปี 2560 อยู่ที่ 12,700 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปีก่อน 10% โดยในปีนี้ตั้งเป้าจะโต 18% ซึ่งเป็นการเติบโตมากกว่าตลาดรวมที่เฉลี่ยโตราว 15%

“อีคอมเมิร์ซทำให้ตลาดขนส่งพัสดุชิ้นย่อยและขนาดใหญ่ โดยเฉพาะประเภทส่งด่วนเติบโตขึ้นมาก ในปี 2560 บริษัทที่ปรึกษาประเมินว่า จะมีการขนส่งทั้งหมด 489.3 ล้านชิ้น คิดเป็นมูลค่าราว 25,500 ล้านบาท”

และทำให้ไปรษณีย์ไทยมีการลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดนี้ในหลายด้าน อาทิ การเพิ่มจำนวนรถยนต์นำจ่ายเพื่อพัฒนาระบบงานนำจ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยลงทุนไปแล้ว 160 ล้านบาท สำหรับเพิ่มรถยนต์นำจ่าย 200 คัน ในเฟสแรกที่พร้อมให้บริการแล้ว และเตรียมจะจัดซื้อเพิ่มอีก 600 คัน ภายในสิ้นปี ด้วยงบประมาณ 480 ล้านบาท

“เดิมมีรถนำจ่ายแล้ว 1,500 คันทั่วประเทศ แต่ภายในสิ้นปีนี้ทุกที่ทำการไปรษณีย์ระดับอำเภอจะมีรถนำจ่ายใช้ เพื่อรองรับการขนส่งพัสดุที่มีขนาดใหญ่ให้พัสดุปลอดภัยและนำจ่ายรวดเร็วขึ้นอีก เพราะเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูง ทั้งในเดือน พ.ค.นี้จะมีการจัดแคมเปญลดค่าส่งพัสดุชิ้นใหญ่ขนาดเกิน 5 กิโลกรัม และเพิ่มกล่องสำเร็จรูปสำหรับส่งแบบเหมาจ่ายไม่ต้องชั่งน้ำหนักให้มีหลายขนาดมากขึ้นด้วย รองรับกลุ่มอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ”

นอกจากนี้ยังเพิ่มบริการ “Pick up” รับพัสดุถึงบ้านให้มีหลายจังหวัดมากขึ้น จากเดิมที่เริ่มแล้วในอำเภอขนาดใหญ่ และเปิดกว้างให้ลูกค้าเข้ามาใช้งานได้ง่ายขึ้น จากเดิมต้องเป็นผู้ประกอบการที่มีปริมาณการส่ง 3,000 ชิ้นต่อเดือน ให้เหลือแค่ส่งราว 20 ชิ้นต่อวัน แต่มีส่งทุกวันก็ติดต่อขอใช้บริการได้แล้ว โดยสอบถามข้อมูลได้ผ่านคอลเซ็นเตอร์ 1545 ทั้งยังวางแผนขยายเวลาทำการของที่ทำการไปรษณีย์ให้มากขึ้น โดยสิ้นปีนี้ตั้งเป้าให้ทุกที่ทำการเปิดให้บริการในวันเสาร์เต็มวัน จากเดิมเปิดครึ่งวัน ในเขตกรุงเทพฯปิดทำการที่ 20.00 น. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงใน 10 สาขาทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล