จับตาซีอีโอ Google ให้การคดีผูกขาดตลาดเสิร์ชเอ็นจิ้น

sundar-pichai
ซันดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) - Photo by Mandel NGAN / AFP

“ซันดาร์ พิชัย” เตรียมเป็นพยานให้การคดีผูกขาดตลาดเสิร์ชเอ็นจิ้น หลังกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐยื่นฟ้อง “Google” เมื่อเดือน ก.ย. 2565

วันที่ 30 ตุลาคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า วันที่ 30 ต.ค. 2566 ตามเวลาสหรัฐ “นายซันดาร์ พิชัย“ (Sundar Pichai) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอัลฟ่าเบท (Alphabet) บริษัทแม่ของกูเกิล (Google) จะขึ้นให้การเป็นพยานเกี่ยวกับการผูกขาดในตลาดเสิร์ชเอ็นจิ้นของ Google หลังกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐยื่นฟ้อง Google เมื่อเดือน ก.ย. 2565

ตัวแทนจากกระทรวงเปิดเผยว่า Google จ่ายเงินประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีให้กับผู้ผลิตสมาร์ทโฟน เช่น แอปเปิล (Apple) และผู้ให้บริการระบบไร้สาย เช่น AT&T เพื่อให้เสิร์ชเอ็นจิ้น เป็นค่าเริ่มต้นในการค้นหาบนอุปกรณ์ ส่งผลให้ Google กลายเป็นเจ้าตลาดที่ครองสัดส่วนราว 90% และทำให้ผู้ให้บริการรายอื่นแข่งขันอย่างยากลำบาก

รายงานข่าวระบุว่า นายซันดาร์ที่มีสถานะเป็นพยานของ Google อาจถูกสอบถามเกี่ยวกับการลงทุนของบริษัทที่มุ่งรักษาความสามารถการแข่งขันด้านการค้นหา โดยเฉพาะเมื่อสมาร์ทโฟนเข้ามาแทนที่ และการแสดงผลโฆษณาบนการค้นหาที่เป็นแหล่งรายได้สำคัญ รวมถึงเหตุผลที่บริษัทต้องจ่ายเงินปีละหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรับประกันว่าเสิร์ชเอ็นจิ้นของ Google จะเป็นค่าเริ่มต้นในสมาร์ทโฟน

ทั้งนี้ Google ได้โต้แย้งกับทางกระทรวงว่า ข้อตกลงเรื่องส่วนแบ่งรายได้นั้นถูกต้องตามกฎหมาย และบริษัทลงทุนเพื่อให้ธุรกิจการค้นหาและโฆษณาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันเท่านั้น หากผู้ใช้ไม่พึงพอใจกับบริการของบริษัท ก็สามารถใช้งานหรือตั้งค่าเสิร์ชเอ็นจิ้นของผู้ให้บริการรายอื่นเป็นค่าเริ่มต้นบนสมาร์ทโฟนได้

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2566 ตามเวลาสหรัฐ “นายสัตยา นาเดลลา” (Satya Nadella) ประธานเจ้าหน้าที่ของไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้เป็นพยานขึ้นให้การในการพิจารณาคดีดังกล่าว และเปิดเผยในชั้นศาลว่า การที่ Google จ่ายเงินปีละหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและผู้ให้บริการระบบไร้สาย เพื่อให้เสิร์ชเอ็นจิ้นของตนเป็นค่าเริ่มต้นบนสมาร์ทโฟน ทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่สามารถหนี Google ได้ และผู้ให้บริการรายอื่น เช่น Microsoft ต้องติดอยู่ในการแข่งขันที่ยากลำบาก

“กิจวัตรประจำวันในตอนเช้าของใครหลายคน คงหนีไม่พ้นตื่นนอน แปรงฟัน และหาข้อมูลด้วย Google” นายสัตยากล่าว