กระทรวงดิจิทัล ย้ำ 2 บริษัทร่วมทุนทีโอที-แคท ต้องเปิดให้บริการ 1 พ.ย.นี้ ตั้งเป้า 3 ปีเริ่มมีกำไร

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2560 บมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท โทรคมนาคม (แคท) ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ชี้แจงความคืบหน้าของการจัดตั้งบริษัท โครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติ จำกัด (NBN co) และ บริษัท โครงข่ายระหว่างประเทศและศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ต จำกัด (NGDC co) ตามมติคณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)

นายพันธุ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ เปิดเผยว่า การตั้ง 2 บริษัทร่วมทุนของทีโอทีและแคท เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายลดการลงทุนซ้ำซ้อนของรัฐวิสาหกิจและให้รองรับการดำเนินการตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล ซึ่งทั้ง 2 บริษัทร่วมทุนจะมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจตามที่มติ ครม.กำหนดไว้ โดยกรอบระยะเวลาที่วางไว้คือทั้ง 2 บริษัทจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในวันที่ 1 พ.ย. 2560

“เชื่อว่าในปีที่ 3 จะสามารถสร้างประสิทธิภาพความมั่นใจให้กับลูกค้า และมีตัวเลขผลประกอบการที่ดี ภายใต้บริบทใหม่จะเดินไปได้ ตอนนี้คือต้องจัดการการเปลี่ยนผ่านให้เป็นไปตามแผน”

นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทที่ปรึกษากำลังประเมินมูลค่าทรัพย์สินเพื่อตีกลับมาเป็นสัดส่วนหุ้น พร้อมกับประเมินอัตรากำลังและสวัสดิการที่จะจูงใจพนักงานเดิมให้ย้ายมาอยู่ที่บริษัทใหม่ในจำนวนที่เหมาะสม สอดคล้องและเทียบเคียงได้กับมาตรฐานของอุตสาหกรรม โดยใช้วิธีคัดเลือกเพื่อให้เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีประสิทธิภาพ ขยายตลาดด้วยตัวเองได้ ซึ่ง NBN ประเมินว่าน่าจะมีพนักงานทั้งหมด 1,200 คน เพื่อความคล่องตัว ต้นทุนแข่งขันได้ พนักงานมีความสุข

โดยทั้ง 2 บริษัทร่วมทุนจะมีคณะกรรมการบริหารบริษัทและกรรมการผู้จัดการของตัวเอง และให้บริการในรูปแบบการขายส่งบริการจากการนำโครงข่ายที่เป็นทรัพย์สินของทีโอทีและแคทมาบริหารให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า พนักงานของบริษัท NDGC ประเมินไว้ที่ 479 คน ซึ่งต้องให้เวลาบริษัทที่ปรึกษาออกแบบแนวทางที่เหมาะสมและรายละเอียดที่เกี่ยวเนื่องอีกจำนวนมาก ทั้งการคัดเลือก การประเมินสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ