
เปิดเหตุผล ทำไม “Apple Intelligence” หรือ AI ของ Apple ถึงสามารถใช้ได้แค่ใน iPhone 15 Pro-Pro Max และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ชิป M1 เป็นต้นไป
วันที่ 16 มิถุนายน 2567 การเปิดตัว “Apple Intelligence” หรือ AI ของ “แอปเปิล” (Apple) ในงาน WWDC 2024 (Worldwide Developers Conference 2024) ที่ผ่านมา ถือเป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวด้าน AI ของ Apple ที่หลายฝ่ายจับตารอมานาน
โดย Apple Intelligence มาพร้อมการพลิกโฉมผู้ช่วยสั่งการด้วยเสียงอย่าง “Siri” และฟีเจอร์ต่าง ๆ มากมาย เช่น Genmoji สร้างอีโมจิแบบคัสตอม และ Image Playground สร้างภาพจากคีย์เวิร์ดเพื่อใช้ในแอปต่าง ๆ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ AI ของ Apple สามารถใช้งานได้บน iPhone 15 Pro-Pro Max, iPad และ Mac ชิป M1 หรือรุ่นที่ใหม่กว่าเท่านั้น นั่นหมายความว่าจะมีผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เพียงบางส่วน ที่สามารถใช้งาน Apple Intelligence หลัง Apple เปิดให้อัพเดตระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดอย่างเป็นทางการ
ทำไมแม้แต่ iPhone 15 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา ถึงใช้งาน Apple Intelligence ไม่ได้ ?
“ขจร เจียรนัยพาณิชย์” บล็อกเกอร์สายไอทีเจ้าของนามปากกา “Khajochi” เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สิ่งที่ Apple ทำให้ AI บนอุปกรณ์ของตนเองแตกต่างจากเจ้าอื่น ๆ คือ 90% ของการประมวลผลเกิดขึ้นบนอุปกรณ์ (On-Device AI) ข้อดีคือใช้เวลาประมวลผลน้อย ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ใช้งานได้ เนื่องจากไม่ต้องส่งข้อมูลไปประมวลผลบนคลาวด์ ขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลให้กับผู้ใช้ด้วย
แต่ถ้าการสั่งการของผู้ใช้แอดวานซ์กว่าที่จะประมวลผลบนเครื่องได้ Apple จะส่งการประมวลผลไปที่ ChatGPT โดยระบบจะขอความยินยอมผู้ใช้ก่อนส่งข้อมูลออกไปประมวลผลบนเซิร์ฟเวอร์ของ ChatGPT
“การที่ Apple Intelligence ใช้ได้กับผลิตภัณฑ์บางกลุ่ม เป็นเพราะข้อจำกัดด้านขนาด RAM เนื่องจากการทำงานของ AI ต้องใช้พื้นที่ในการประมวลผลบน RAM เป็นจำนวนมาก ซึ่งความจุของ RAM บน iPhone 15 มีน้อยกว่ากลุ่ม iPhone 15 Pro และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ชิป M1 มาก ๆ จึงไม่สามารถรองรับการใช้งาน Apple Intelligence บนอุปกรณ์ได้”
ทั้งนี้ ข้อมูลบนเว็บไซต์ทางการของ Apple ระบุว่า iPhone 15 ใช้ชิป A16 Bionic มาพร้อม RAM 6GB ส่วนกลุ่ม iPhone 15 Pro ใช้ชิป A17 Pro มาพร้อม RAM 8GB และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ชิป M1 จะมาพร้อม RAM เริ่มต้นที่ 8GB