“บัซซี่บีส์” เดินหน้าขยายน่านน้ำทางธุรกิจ ชู “Mediabuzz” ศูนย์รวมเพจ-อินฟลูเอนเซอร์ รับเทรนด์ “Affiliate Marketing” คาดปี 2567 ช่วยแบรนด์สร้างยอดขายรวม 4 พันล้านบาท พร้อมเปิดตัว “BEE’S BENEFIT” โซลูชั่นสร้างความผูกพันในองค์กร รุกตลาด Business to Employee
วันที่ 26 มิถุนายน 2567 นางสาวณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด (BUZZEBEES) กล่าวว่า ในปี 2567 ธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวมากขึ้น โดยหลายองค์กรยังให้ความสำคัญกับ Digital Engagement และ Loyalty Program เพื่อสร้างสัมพันธ์อันดีกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
และมุ่งเน้นการยกระดับไปอีกขั้นด้วยการสร้างการมีส่วนร่วมแบบเฉพาะบุคคล ทำให้เกิดความแตกต่างและเฉพาะเจาะจงกับแต่ละกลุ่มลูกค้าเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้น รวมถึงรักษาฐานลูกค้าในสภาวะการแข่งขันที่เข้มข้น และสภาพตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“ปีนี้เป็นปีที่มีความท้าทายและต้องเผชิญกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัว BUZEEBEES จึงต้องปรับวิธีคิดในการสร้างธุรกิจรูปแบบใหม่จากการคิดค้นและสร้างสรรค์นวัตกรรม เชื่อว่าจะเข้ามาพลิกโฉมวิธีการเชื่อมต่อและโต้ตอบกันในโลกออนไลน์ในอนาคต รวมถึงการปรับตัวเพื่อการอยู่รอดและการเติบโตของการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล ซึ่งเป็นอีกบททดสอบที่หนักหน่วง”
ทั้งนี้ หนึ่งในบริการของ BUZZEBEES ที่เติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ และเปิดตัวในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา คือธุรกิจบริการอีคอมเมิร์ซ (e-Commerce Enabler Service) ให้บริการตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทั้งจัดการงานหลังบ้านและการขายผ่านไลฟ์สตรีม ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้แบรนด์และร้านค้าสามารถพลิกฟื้นกลับมาเติบโตทางรายได้อีกครั้ง
“โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา BUZZEBEES สามารถสร้างยอดขายให้ลูกค้าในตลาดอีคอมเมิร์ซได้แบบก้าวกระโดดถึง 3 เท่า หากเทียบกับปี 2565 ซึ่งมีมูลค่ายอดขายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท จากรายได้ทั้งหมดของ BUZZEBEES ถือว่าเกินจากเป้าหมายถึง 120%”
นางสาวณัฐธิดากล่าวต่อว่า ปัจจุบัน BUZZEBEES ให้บริการในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ ได้แก่ Shopee, Lazada, Brand.com, Line Official และ TikTok ซึ่งเป็นดาวรุ่งในปี 2566-2567 โดย BUZZEBEES เพิ่งเริ่มขยายฐานการให้บริการจัดการร้านค้าในแพลตฟอร์ม TikTok เมื่อเดือน เม.ย. 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่องทางที่สร้างยอดขาย (GMV) ให้กับลูกค้าได้มากกว่า 1,000% ภายในระยะเวลา 5 เดือน
ขณะที่ “Mediabuzz” ศูนย์รวมเพจหรืออินฟลูเอนเซอร์ เป็นธุรกิจใหม่ด้าน Affiliate Marketing และเป็นเรือธงแห่งปี 2567 ของ BUZZEBEES ซึ่งตอบโจทย์เรื่องการสร้างยอดขาย (Sales Conversion) ผ่านการใช้ Influencer Marketing ผสมผสานกับการใช้ดาต้าและ AI เข้ามาสร้างโมเดลการทำโฆษณาที่สร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดทั่วไป
โดยในปี 2566 Mediabuzz สามารถทำยอดขายสินค้ารวม (GMV) ได้ถึง 2.2 พันล้านบาท ผ่านผู้ติดตามสื่อในเครือของ Mediabuzz รวมกว่า 20 ล้านคน และสามารถสร้างผลการตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) ได้สูงสุด 100 เท่า
Mediabuzz ให้บริการลูกค้าในหลายประเภทอุตสาหกรรม เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เฟอร์นิเจอร์, สินค้าแฟชั่น, ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน, การท่องเที่ยว เป็นต้น โดยคาดการณ์ว่าภายในปี 2567 ธุรกิจ Mediabuzz จะสร้างยอดขาย (GMV) รวมได้สูงกว่า 4 พันล้านบาท
“ล่าสุด BUZZEBEES ยังได้พัฒนาแพลตฟอร์ม BEES’ BENEFIT เพื่อขยายตลาด B2E (Business to Employee) เน้นการให้ของรางวัลที่ถูกใจพนักงานและสร้างความผูกพันในองค์กร มุ่งหวังให้ HR นำไปเป็นเครื่องมือที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานและองค์กร”
นอกจากนี้ BUZZEBEES ยังให้บริการครอบคลุมใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และกัมพูชา โดยพัฒนาแพลตฟอร์มพันธมิตรกว่า 1,200 แพลตฟอร์ม และมีผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มกว่า 170 ล้านบัญชี
“สำหรับรายได้จากการดำเนินงานของ BUZZEBEES ในปี 2563 อยู่ที่ 921 ล้านบาท, ปี 2564 อยู่ที่ 1,142 ล้านบาท, ปี 2565 อยู่ที่ 1,751 ล้านบาท และปี 2566 อยู่ที่ 1,980 ล้านบาท โดยตั้งเป้ารายได้ปี 2567 โตจากปีก่อน 30%”