ไอซีที

“ไทย-มาเลย์” มุ่งสู่ การค้าออนไลน์อาเซียน

คอลัมน์ Pawoot.com

โดย ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ

ปลายเดือนที่ผ่านมา ผมมีโอกาสเดินทางไปมาเลเซียเพื่อทำในสิ่งที่ได้เคยพูดไว้ว่าเราต้องรับมือกับการบุกเข้ามาของสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ โดยนำสินค้าของเราออกนอกประเทศให้ได้ และผมได้ทำแล้วครับ

การเดินทางไปครั้งนี้เพื่อลงนามความร่วมมือทางการค้าออนไลน์ระหว่าง 2 ประเทศ และการขยายธุรกิจไทยด้านออนไลน์ไปมาเลเซีย โดย TARAD.com ขยายช่องทางเข้าไปในเว็บไซต์ของมาเลเซีย รวมถึงการร่วมลงทุนของบริษัท SHIPPOP ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางออนไลน์ และบริษัท SiamOutlet ผู้ให้บริการการจัดเก็บและส่งสินค้า ทั้งคู่ขยายบริการไปยังมาเลเซียเช่นเดียวกัน

ครั้งนี้มีตัวแทนจาก MDEC(Malaysia Digital Economy Corporation Sdn Bhd) ของมาเลเซีย และกระทรวงพาณิชย์ไทยเป็นพยานในการลงนาม 3 โครงการ คือ

1.โครงการความร่วมมือ TARAD.com เว็บไซต์การค้าออนไลน์กับ SiteGiant ผู้ให้บริการการค้าออนไลน์ของมาเลเซีย เพื่อเชื่อมต่อการค้าออนไลน์ระหว่างกัน โดยนำสินค้าจากไทยไปมาเลเซีย และจากมาเลเซียส่งมาไทย

2.โครงการการร่วมลงทุนของ SHIPPOP มาเลเซีย (www.Shippop.com.my) ผู้ให้บริการขนส่งทางออนไลน์ในมาเลเซีย เป็นการร่วมลงทุนระหว่างบริษัท SHIPPOP ประเทศไทย และบริษัท Commerce.asia ผู้ให้บริการ e-Commerce ครบวงจรของมาเลเซีย และ 3.โครงการการลงทุนใน LetMeStore มาเลเซีย บริษัทด้านการจัดเก็บสินค้าและจัดส่งสินค้า เป็นการลงทุนของบริษัท Siam Outlet ประเทศไทย

สำหรับ SHIPPOP เป็น startup เบอร์ต้น ๆ ของไทย โดยเด็กไทย 15 คน อายุเฉลี่ยแค่ 25 ปี สร้างธุรกิจจนเติบโต และสร้างกำไรหลังเปิดแค่ปีกว่า ๆ ทั้งขยายธุรกิจไปต่างประเทศได้รวดเร็ว โดยเปิดให้บริการ SHIPPOP มาเลเซีย ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้วเชื่อมต่อกับระบบขนส่งหลักภายในมาเลเซียได้หมด มียอดผู้ใช้โตต่อเนื่อง ขณะนี้ให้บริการกับบริษัทต่าง ๆ ในมาเลเซียเป็นหลัก ในอนาคตจะเชื่อมต่อเข้าด้วยกันกับระบบขนส่งของไทย โดยในการทำงาน ทางทีมของประเทศไทยจะเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีหลักให้ SHIPPOP มาเลเซีย

ส่วน Siam Outlet บริษัทคลังสินค้าและโลจิสติกส์สำหรับองค์กรธุรกิจและร้านค้าออนไลน์แบบครบวงจรของไทย เป็นอีกบริษัทที่น่าจับตามอง หลังเปิดมา 2 ปีก็นำเทคโนโลยีมาขยายการลงทุนไปนอกประเทศ โดยลงทุนใน Let-MeStore ผู้ให้บริการลักษณะเดียวกันในมาเลเซีย นำเทคโนโลยีการบริหารคลังสินค้าและองค์ความรู้ที่ใช้ในไทยมาถ่ายทอดให้ทีมงานมาเลเซียได้ใช้เช่นเดียวกัน

ทั้ง 2 บริษัทไทยเป็นพลังของนักธุรกิจไทยรุ่นใหม่ที่ขยายไปต่างประเทศได้รวดเร็ว เป็นตัวอย่างที่ดีของการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ที่เติบโตและขยายตัวเร็วกว่ารูปแบบเดิม และผลจากความร่วมมือกับประเทศมาเลเซียครั้งนี้ทำให้ผู้ประกอบการของทั้ง 2 ประเทศขยายช่องทางการค้าระหว่างกันผ่านทางออนไลน์ได้สะดวกและง่ายมากขึ้น เป็นการผลักดันของภาคธุรกิจเอกชนที่ต้องการเห็นความร่วมมือระหว่างประเทศเกิดขึ้น เพราะโดยหน้าที่ของผมคงไม่ปล่อยให้จีนบุกเข้ามาแต่เพียงฝ่ายเดียว เป็นความร่วมมือระดับอาเซียนที่มีมากขึ้นกับบริษัท Commerce.asia บริษัทที่ให้บริการ e-Commerce ของมาเลเซีย

ก้าวต่อจากนี้คงต้องมองออกไปประเทศอื่นในอาเซียนจะขายแต่ในประเทศไม่ได้ต้องเชื่อมต่อ พูดคุยเจรจากับหน่วยงานแต่ละประเทศ รวมถึงเตรียมพร้อมเรื่อง warehouse การขนส่ง การจัดการสินค้า ฯลฯ โดยเฉพาะนักธุรกิจไทยที่ต้องการส่งออกไปต่างประเทศ ผมพยายามตระเตรียมทุกอย่างไว้ให้ อย่างที่ TARAD.com เชื่อมต่อและเตรียมความพร้อมไว้ให้เพียงนำข้อมูลสินค้ามาใส่ไว้ในเว็บไซต์ก็ส่งไปขายต่างประเทศได้ สิ่งที่เราพยายามทำ คือลดขั้นตอน และทำให้คนไทยส่งของไปขายได้ง่ายและสะดวกขึ้นกว่าเดิม เท่ากับเราจะมีทางรอดได้มากขึ้นอีกนั่นเอง