กสทช. ร่างเกณฑ์ใหม่คัดเลือกเอกชนให้เข้าใช้วงโคจรดาวเทียม 3 ตำแหน่ง หลังไร้ผู้เข้าประมูล พร้อมประสานรัฐบาลหาแนวทางร่วม สงวนวงโคจรไว้
วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติได้ (กสทช.) ได้มีวาระสำคัญคือพิจารผลการยื่นขอรับอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม ณ ตำแหน่งวงโคจร 50.5-501 และ 14× องศาตะวันออก ในลักษณะจัดชุด (Package) ซึ่งมีกำหนดการปิดรับเอกสารขอประมูลไปเมื่อ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าไม่มีผู้เข้าร่วมประมูล อาจส่งผลให้วงโคจรทั้ง 3 ตำแหน่ง ต้องส่งกลับคืนให้สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU)
ทั้งนี้ แม้สิทธิในวงโคจรจะเป็นไปตามหลัก First come, First Serve ที่ ITU ต้องจัดสรรให้ผู้ที่พร้อมส่งดาวเทียมขึ้นก่อน แต่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 60 ระบุสถานะให้รัฐต้องรักษาสิทธิในวงโคจร ซึ่งถือเป็น “สมบัติชาติ”
นายสมภพ ภูวิกรัยพงษ์ กสทช. ด้านกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมวันนี้ บอร์ด กสทช. หลักการรักษาสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม เห็นว่าต้องมีการปรับหลักเกณฑ์ใหม่จัดสรรสิทธิการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมใหม่ เนื่องจากวิธีประมูลแบบเดิมไม่มีผู้เข้าร่วม โดยจะวิธีการจัดสรรสิทธิโดยตรงแบบเปิดกว้าง (open direct award) ที่จะพิจารณาคัดเลือกผู้ชนะจากการเปรียบเทียบคุณสมบัติและข้อเสนอ (beauty contest) จากผู้สนใจเข้าร่วมคัดเลือก
ทั้งนี้ บอร์ด กสทช. ยังมีมติให้สำนักงาน กสทช. ทำหนังสือไปสอบถามคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลในการใช้วงโคจรดาวเทียมดังกล่าว ตำแหน่งวงโคจร 50.5-51 และ 142 องศาตะวันออก ภายใน 5 วันทำการ และให้สำนักงาน กสทช. มีหนังสือไปยังสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) เพื่อขอขยายระยะเวลาการใช้งานข่ายงานดาวเทียมในวงโคจรดังกล่าวออกไป เนื่องจากอยู่ระหว่างการดำเนินการคัดเลือกผู้ได้รับอนุญาต
บอร์ดมีมติผลักดันเกณฑ์ใหม่ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น คือผสมผสานระหว่างแนวทางจัดสรรสิทธิโดยตรงแบบเปิดกว้าง (open direct award) ซึ่ง กสทช. จะไม่กำหนดเกณฑ์ แต่ให้เอกชนที่สนใจยื่นเสนอเงื่อนไขเข้ามา และแบบเปรียบเทียบคุณสมบัติและข้อเสนอจากผู้ร่วมคัดเลือก (beauty contest) โดยมุ่งเน้นการรักษาสิทธิวงโคจรและเน้นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ กสทช.จะพิจารณาเปรียบเทียบว่าข้อเสนอของผู้ประกอบการรายใดให้ความมั่นใจว่าจะรักษาสิทธิวงโคจรทั้ง 3 ตำแหน่งได้ และมีข้อเสนอที่ดีที่สุด
โดยมีมติให้สำนักงาน กสทช. จัดทำร่างหลักเกณฑ์การจัดสรรสิทธิด้วยวิธีการดังกล่าวเสนอที่ประชุม กสทช. ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน ก่อนที่จะนำไปรับฟังความคิดเห็นและประกาศใช้ต่อไป อีกทั้งในระหว่างนี้ ยังมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. ศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์เพิ่มเติม กรณีแนวทางเลือกที่ กสทช.จะเป็นผู้ดำเนินการรักษาสิทธิเอง
โดยให้ศึกษาทั้งข้อดีและข้อจำกัดในประเด็นต่าง ๆ อาทิ ข้อจำกัดด้านกฎหมาย ข้อจำกัดทางเทคนิค หรือข้อจำกัดอื่น ๆ รวมทั้งงบประมาณที่จะต้องดำเนินการ และนำเสนอที่ประชุม กสทช. ภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป
ก่อนการประชุมบอร์ด กสทช. ในวันนี้ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ประชุมคณะอนุกรรมการด้านกิจการดาวเทียม ได้พิจารณากรณีที่ไม่มีผู้สนใจเข้ายื่นขอรับอนุญาต และได้มีมติ เสนอแนะวิธีการจัดสรรสิทธิแบบอื่น เพื่อให้สำนักงาน กสทช. เสนอต่อที่ประชุม กสทช. เพื่อพิจารณาในการประมูลครั้งที่ผ่านมา บอร์ด กสทช. ได้ลดราคาขั้นต่ำของใบอนุญาตลง โดยวงโคจรตำแหน่ง 50.5-51 องศาตะวันออก ลดจาก 374 ล้านบาท เหลือ 41 ล้านบาท และวงโคจร 142 องศาตะวันออก ลดจาก 189 ล้านบาท เหลือ 23 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้มีหนังสือตอบกลับสำนักงาน กสทช. ที่ขอรับทราบนโยบายของรัฐบาลสําหรับความต้องการและความพร้อมในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐสำหรับสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในตำแหน่งดังกล่าว ได้รับคำตอบว่า ตำแหน่งวงโคจร 50.5 51 และ 142 องศาตะวันออก ไม่อยู่ในชุดข่ายงานดาวเทียมตามนโยบายการดำเนินงานดาวเทียมสื่อสารแห่งชาติ ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการไปเรียบร้อยแล้ว