AIS-Oracle ทุ่ม 8 พันล้าน อัพดาต้าเซ็นเตอร์ให้บริการ Hyperscale Cloud

AIS จับมือ Oracle ลงขันรายละ 4 พันล้านบาท อัพเกรดดาต้าเซ็นเตอร์ของ AIS เพิ่มให้บริการคลาวด์ระดับ Hyperscaler เจ้าแรกในไทย เริ่มใช้ ไตรมาส 1/2568

วันที่ 1 สิงหาคม 2567 นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS เปิดเผยว่า AIS ได้อาศัยโครงข่ายโทรคมนาคมที่วางรากฐานมากว่า 34 ปี เมื่อรวมกับการบริหารจัดการศูนย์ข้อมูลคลาวด์ระดับสูง จาก Oracle Cloud ซึ่งเป็นผู้ให้บนิการคลาวด์ระดับโลก ที่บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ต้องพึ่งพา โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์เพื่อการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ เพื่อลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซนเตอร์ สำหรับคลาวด์ ระดับ Hyperscale ซึ่งในไทยยังไม่มีใครทำได้

โดยในช่วง ปี 2567-2574 ทาง AIS และ Oracle จะลงทุนรายละ 3-4 พันล้านบาท และโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ จะพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าในช่วง ไตรมาส 1/2568

“กว่า 34 ปีที่ผ่านมา AIS มุ่งพัฒนาโครงสร้างด้านดิจิทัลเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์ดิจิทัลที่ดียิ่งกว่า ควบคู่ไปกับการนำศักยภาพโครงข่ายมาผสมผสานผ่านการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ที่หลากหลายเข้าเชื่อมต่อและสนับสนุนการทำงานกับองค์กร ทั้งภาครัฐ และเอกชน ให้สามารถทำดิจิทัลทรานสฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นการเพิ่มศักยภาพและยกระดับขีดความสามารถในสร้างการเติบโต ที่จะนำไปสู่การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับประเทศได้อย่างยั่งยืน”

โดยเฉพาะความสามารถของเทคโนโลยีคลาวด์ ที่ปัจจุบันเข้ามามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการรองรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีขององค์กร ทำให้วันนี้เราได้ทำงานกับพาร์ตเนอร์ผู้ให้บริการด้านคลาวด์ระดับโลกอย่าง Oracle ที่จะทำให้ประเทศไทยมีบริการระดับ Hyperscale Cloud เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก

ผ่านบริการ AIS Cloud บน AIS Data Center ที่จะเป็นการปลดล็อกศักยภาพในการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นอย่างมีประสิทธิภาพทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ซึ่งจะมีส่วนสำคัญต่อการเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขัน ดึงดูดนักลงทุน และติดสปีดเครื่องยนต์เศรษฐกิจไทย

“นอกจากการรวมความแข็งแกร่งแกร่งของโครงข่าย 5G จาก AIS จะทำให้มีเทคโนโลยีไฮเปอร์สเกลคลาวด์แห่งแรกในไทย ที่สามารถขยายขนาดรองรับการประมวลผลข้อมูลมหาศาล ที่จะเป็นกุญแจของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ต่อไปแล้ว เทคโนโลยี Hyperscale Cloud จะทำให้ข้อกังวลเรื่องข้อมูลละเอียดอ่อนของคนไทยที่เคยกระจายไปอยู่ศูนย์ข้อมูลข้างนอกก็จะหมดไป ด้วยศูนย์ข้อมูลของเราตั้งในประเทศ ซึ่งสามารถสนองการบริการประชาชนตามนโยบาย Cloud first policy ของรัฐบาลได้”

ด้าน นายการ์เร็ตต์ อิลจ์ รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไป ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น กล่าวว่า การมอบตัวเลือกที่หลากหลายให้กับพันธมิตรและลูกค้าของเราเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาโดยตลอด ซึ่งประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ และความร่วมมือ Oracle Alloy กับ AIS จะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมของประเทศช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้ AIS กลายเป็นผู้ให้บริการ Hyperscale Cloud สามารถพัฒนาบริการใหม่ ๆ ได้เร็วขึ้น

พร้อมทั้งนำเสนอ Sovereign Cloud และความสามารถด้าน AI ให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศ ภายข้อกำหนดด้านกฎหมายด้านมาตรฐานการควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลที่แตกต่างกัน ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ AIS สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า ด้วยประสบการณ์ของ AIS ที่เป็นผู้นำด้านบริการดิจิทัลในไทยซึ่งมีความเชี่ยวชาญในตลาดภายในประเทศ ทำให้ AIS สามารถส่งมอบบริการที่เหมาะสมต่อลูกค้าแต่ละรายที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า