
“anitech” ทุ่มงบฯ 10 ล้านบาท คอลแลบส์ “Sanrio” เปิดตัวสินค้าคอลเล็กชั่นพิเศษ ออกแบบจากแคแร็กเตอร์ “Kuromi-Bad Badtz-Maru” รับกระแสอาร์ตทอย เพิ่มโอกาสตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้ายอดขายตลอดแคมเปญ 50 ล้านบาท
วันที่ 3 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “แอนิเทค” (anitech) คอลแลบส์แบรนด์กับ “ซานริโอ” (Sanrio) เปิดตัวแคมเปญ “anitech Sanrio ART N’JOY COLLABORATION” จำหน่ายสินค้าคอลเล็กชั่นพิเศษ ที่ออกแบบจาก 2 แคแร็กเตอร์ชื่อดัง ได้แก่ คุโรมิ (Kuromi) และ Bad Badtz-Maru
นายพิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัวแคมเปญดังกล่าวเป็นก้าวสำคัญของแอนิเทคในการต่อยอดความนิยม “อาร์ตทอย” ที่กำลังเป็นกระแสไปทั่วโลก โดยมูลค่าตลาดอาร์ตทอยโลกสูงถึง 8,517.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ในทวีปเอเชีย
“เรายังเห็นโอกาสในตลาดประเทศไทยที่มีศักยภาพการเติบโตสูง จากกลุ่มผู้ซื้อที่มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และมีพฤติกรรมการซื้อแบบสะสมให้ครบทุกเซต แตกต่างจากผู้ซื้อประเทศอื่น ๆ ที่ซื้อเพื่อความสนุกสนาน”
นายพิชเยนทร์กล่าวต่อว่า กระแสความนิยมของวงการอาร์ตทอยสามารถสะท้อนถึงความสนใจจากกลุ่ม “Kidult” (Kid + Adult) คนรุ่นใหม่และผู้ใหญ่ ที่หลงใหลในการสะสมอาร์ตทอย รวมถึงยังครอบคลุมกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์และสนใจเรื่องการตกแต่งบ้าน โดยผลิตภัณฑ์ของแอนิเทคจะมีการผสมผสานระหว่างความสนุกและฟังก์ชั่นการใช้งาน ทำให้ผลิตภัณฑ์มีเอกลักษณ์สูง
“การนำตัวละคร Kuromi และ Bad Badtz-Maru ที่ใช้เวลากว่า 2 ปี ในการคัดเลือกจากตัวการ์ตูนของซานริโอกว่า 400 แคแร็กเตอร์ มาสร้างสรรค์เป็นคอลเล็กชั่นใหม่ ถือเป็นการนำเสนอสินค้าที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการสิ่งที่ไม่ซ้ำใคร โดยชูจุดขายทั้ง Function และ Emotion ไปพร้อม ๆ กัน”
ก่อนหน้านี้ แอนิเทคได้เปิดตัวแคมเปญ “anitech x PEANUTS” ในปี 2565 ถือเป็นการใช้กลยุทธ์ “Character Marketing” ในการสร้างความโดดเด่นให้กับสินค้าของแบรนด์
“ความสำเร็จของแคมเปญ anitech x PEANUTS คอลเล็กชั่น Snoopy ส่งผลให้ภาพรวมของบริษัทในครึ่งปีแรกเติบโตขึ้น โดยกลุ่มสินค้า Own Brand เติบโตขึ้น 20% ทดแทนรายได้จากกลุ่มสินค้ารับจ้างผลิตที่ลดลง ขณะที่ช่องทางออนไลน์เติบโตขึ้นมากถึง 1,000% และยังคงมีแนวโน้มโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
นายพิชเยนทร์กล่าวด้วยว่า การคอลแลบส์แบรนด์กับค่ายคอนเทนต์ที่มีแคแร็กเตอร์ครองใจคนทั่วโลก เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้จากต่างประเทศและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งปัจจุบันมีตลาดหลักอยู่ในประเทศกัมพูชา ลาว และเมียนมา โดยพยายามขยายตลาดไปยังประเทศอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง
“สำหรับแคมเปญนี้ใช้งบฯการตลาด 10 ล้านบาท โดยตั้งเป้าสร้างยอดขายตั้งแต่เดือน ก.ย. 2567-ม.ค. 2568 ราว 50 ล้านบาท”
ทั้งนี้ สินค้าคอลเล็กชั่น “anitech Sanrio ART N’JOY COLLABORATION” แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม 35 รายการ ได้แก่ 1.Computer Accessories, 2.Home Devices และ 3.Home Appliances เช่น รางปลั๊กไฟ, เมาส์ไวเลสไร้สาย 2.4 G, เมาส์มีสาย, แผ่นรองเมาส์, กระทะไฟฟ้า, หม้อต้มน้ำ และกาต้มน้ำไฟฟ้า เป็นต้น