ทรูบิสิเนส x อินเทล ลุย “สมาร์ทเฮลท์” รับสังคมสูงวัย

inter-true

จากข้อมูลของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2566 ระบุว่า ผู้สูงอายุสัญชาติไทยที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านมีจำนวน 13,064,929 คน คิดเป็น 20.08% ของประชากร นั่นทำให้ไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Complete Aged Society)

แม้ว่าการเข้าสู่สังคมสูงวัยจะทำให้ต้องเผชิญกับความท้าทายในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนแรงงานในระบบที่น้อยลงเรื่อย ๆ และการจัดสรรงบประมาณเพื่อดูแลผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่ก็ยังมาพร้อมโอกาสในการสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนกลุ่มนี้ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาโซลูชั่นเพื่อให้บริการทางการแพทย์

ล่าสุด “ทรูบิสิเนส” ร่วมมือกับ “อินเทล” (Intel) ในการส่งเสริมการประยุกต์ใช้ AI เพื่อพัฒนาโซลูชั่นดูแลสุขภาพอัจฉริยะ (Smart Healthcare) โดยทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ทั้งกลุ่มสตาร์ตอัพ บริษัทเทคโนโลยี และโรงพยาบาลในประเทศต่าง ๆ หลายร้อยราย

พิชิต ธันโยดม-ฉันทนา สุวรรณวงษ์

ตัวอย่างโซลูชั่นดูแลสุขภาพอัจฉริยะจากพาร์ตเนอร์ที่ทำงานร่วมกับ “ทรูบิสิเนส” และ “อินเทล” ประกอบด้วย

1.Telemedicine and Tele ICU : บริการการแพทย์ทางไกลที่เชื่อมโยงชุดอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ติดตั้งในท้องถิ่นต่าง ๆ กับระบบหลักของโรงพยาบาล โดยมีแพลตฟอร์มจัดเก็บข้อมูลและประวัติของผู้ป่วย บันทึกทุกการดำเนินการทางการแพทย์ พร้อมแสดงข้อมูลผ่านแดชบอร์ดเพื่อให้แพทย์สามารถให้คำปรึกษาและรักษาผู้ป่วยได้แบบเรียลไทม์

2.Future of Large Language Model (LLM) : แพลตฟอร์มสำหรับตรวจสอบประวัติผู้ป่วยและวิเคราะห์อาการเบื้องต้น โดยผู้ป่วยสามารถกรอกข้อมูลส่วนบุคคลและอาการเจ็บป่วย ระบบ AI จะช่วยวิเคราะห์อาการร่วมกับข้อมูลทางการแพทย์ พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสาเหตุและแนวทางการรักษาโรคหรือปัญหาสุขภาพ

ADVERTISMENT

3.Pathology as a Service : แพลตฟอร์มที่ใช้เทคโนโลยีสแกนชิ้นเนื้อเพื่อแปลงภาพพยาธิวิทยาเป็นดิจิทัล ซึ่ง AI สามารถวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้กระบวนการทดสอบตัวอย่างชิ้นเนื้อและเลือดมีความรวดเร็วมากขึ้น ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาได้ทันท่วงที เช่น การพยาธิวิทยาดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถตรวจพบมะเร็งได้ภายในไม่กี่นาที เป็นต้น

4.Ophthalmology as a Service : แพลตฟอร์มที่ให้บริการสำหรับการวิเคราะห์และคัดกรองจักษุวิทยา เช่น จอประสาทตาเสื่อมจากอายุและเบาหวาน โดยใช้กล้องเรตินาที่ขับเคลื่อนด้วย AI และคอมพิวเตอร์วินิจฉัยแบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้ยาหยอดขยายม่านตาที่ทำให้รู้สึกไม่สบายตา

ADVERTISMENT

5.Digital Patient Twin (Patient Management as a Service-PMaaS) : โซลูชั่นสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผู้ป่วยและความปลอดภัยด้วยอุปกรณ์ไร้การสัมผัส โดยข้อมูลของผู้ป่วยจะส่งไปยังอุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งอยู่บนเพดานห้องพักระดับเหนือเตียงผู้ป่วย พร้อมเชื่อมโยงไปยังศูนย์กลางเพื่อรวบรวมและแจ้งเตือนเมื่อพบความผิดปกติ โดยบุคลากรทางการแพทย์ 1 คน สามารถดูแลผู้ป่วยได้ถึง 10 คน จากเดิมที่ต้องใช้เจ้าหน้าที่พยาบาลเฉลี่ย 3 คน ในการดูแลผู้ป่วย 10 คน

6.Residential Care Management : แพลตฟอร์มสำหรับดูแลผู้สูงอายุ ช่วยให้ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยได้รับการดูแลจากบุคลากรทางการแพทย์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ด้วยอุปกรณ์ Edge IOT และเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งบนรถเข็น โทรศัพท์เคลื่อนที่หรือแท็บเลต บันทึกข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล และใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมและความเสี่ยงด้านสุขภาพ

และ 7.Transforming of PACS (Picture Archiving and Communication System) : ระบบจัดเก็บรูปภาพทางการแพทย์ (Medical Images) หรือภาพถ่ายทางรังสีผ่านแพลตฟอร์ม AI

“พิชิต ธันโยดม” หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกลุ่มธุรกิจองค์กร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นการผสมผสาน และขับเคลื่อนการทำงานของโซลูชั่นอัจฉริยะด้านการดูแลสุขภาพที่ครอบคลุมทั้งการวินิจฉัยรักษา การฟื้นฟูดูแล และการจัดการข้อมูลทางการแพทย์ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการแพทย์และสาธารณสุขของไทย

ทั้งยังช่วยสนับสนุนการทำงานของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลต่าง ๆ ให้ส่งมอบบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ แม่นยำ และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันผู้ป่วยทั่วประเทศสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึง ตลอดจนได้รับประสบการณ์และผลลัพธ์ในการรักษาที่ดียิ่งขึ้น

“เป้าหมายระยะแรกไม่ได้โฟกัสที่เม็ดเงินหรือรายได้จากการขายโซลูชั่น แต่จะเน้นที่การส่งเสริมอีโคซิสเต็มให้เกิดการพัฒนาโซลูชั่นใหม่ ๆ ซึ่งโซลูชั่นด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคนต้องมีขั้นตอนในการทดสอบอย่างเข้มงวด และผ่านเกณฑ์ของ FDA (อย.) ก่อนจะให้บริการได้”

ด้าน “ฉันทนา สุวรรณวงษ์” ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ทุกวันนี้ประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การนำ AI มาใช้พัฒนาโซลูชั่นเพื่อการดูแลสุขภาพ เพื่อลดเวิร์กโหลดของบุคลากรทางการแพทย์ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น

“เราทำงานร่วมกับทรูบิสิเนสมาต่อเนื่องหลายเดือน เพื่อผลักดันให้เกิดการนำโซลูชั่นมาใช้จริง ในฐานะที่อินเทลมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และการพัฒนาชิปเซต จึงสนับสนุนทีมวิจัย และกลุ่มสตาร์ตอัพในส่วนของการเข้าถึงซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาโซลูชั่นต่าง ๆ”