“ฐากร” ชงภาครัฐ ดึงต่างชาติลงทุน ดันไทยเป็นที่ 4 ส่งออก PCB โลก

“ฐากร ตัณฑสิทธิ์” ชี้ “PCB” แกนหนุนไทยก้าวสู่ยุคดิจิทัล พร้อมชงภาครัฐดึงต่างชาติลงทุน ขยายสัดส่วนการส่งออก PCB เป็น 10-15% ดันไทยเป็นที่ 4 ของโลก รองจากจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น

วันที่ 17 กันยายน 2567 นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.อว.) กล่าวในงานสัมมนา “ปลุกไทยฝ่าวิกฤต ปั้น PCB เศรษฐกิจแสนล้าน” จัดโดย “เครือมติชน” ว่า

PCB (Printed Circuit Board) เป็นกระดูกสันหลังในการเชื่อมต่อวงจรของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์สื่อสาร ระบบสารสนเทศแห่งอนาคต คอมพิวเตอร์ AI Server และยานยนต์อัจฉริยะ เป็นต้น

ในขณะเดียวกันก็เป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้มูลค่ามหาศาลให้กับประเทศไทย โดยมีมูลค่าการส่งออก PCB ในแต่ละปีไทยประมาณ 1.5 แสนล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งในตลาดโลกที่มีมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านบาท 4%

“กมธ.อว. มีหน้าที่ในการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพิ่มทักษะการทำงาน และส่งเสริมการวิจัยนวัตกรรม ตามวิสัยทัศน์ ‘วิจัยนำ นวัตกรรมตาม’ ซึ่ง PCB เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่จะพาไทยก้าวสู่โลกยุคดิจิทัล และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจดิจิทัลได้”

อย่างไรก็ตาม การผลักดันอุตสาหกรรม PCB ของไทยให้เติบโตตามภาพรวมของตลาดโลก ที่มีโอกาสขยายตัวอีก 5.3 แสนล้านบาท ในปี 2569 ถือเป็นโจทย์สำคัญที่ต้องหารือร่วมกัน ว่าจะทำให้ไทยมีส่วนแบ่งมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างไร

ADVERTISMENT

“หากไทยนำนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนได้อีก 50 โรงงาน เชื่อว่าส่วนแบ่งของไทยในตลาด PCB โลกจะโตเป็น 10-15% เป็นที่ 4 รองจากจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งการจูงใจนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในไทยต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น กสทช. BOI และ EEC”

นายฐากรกล่าวด้วยว่า การส่งเสริมอุตสาหกรรม PCB ในไทยยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในประเทศหลาย ๆ ด้าน เช่น การสร้างงานทั้งในสายผลิตและวิศวกร ซึ่งที่ผ่านมามีการจ้างงานกว่า 1.2 แสนตำแหน่ง และการพัฒนาทักษะแรงงานให้ตอบโจทย์ความต้องการตลาด เพิ่มโอกาสในการสร้างงานให้กับคนรุ่นใหม่

ADVERTISMENT

“การจัดงานสัมมนาครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมอุตสาหกรรม PCB เพื่อพาไทยผ่านพ้นพิษเศรษฐกิจที่รุมเร้า และเปลี่ยน PCB จากเศรษฐกิจแสนล้านเป็นหลายแสนล้านบาท”