
“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ชี้ การละเมิดลิขสิทธิ์การสตรีมมิ่งและเว็บไซต์เถื่อน เพิ่มขึ้นต่อเนื่องและเชื่อมโยงอาชญากรรมไซเบอร์ พนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จับมือ “ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป” ยกระดับการป้องกันภัยไซเบอร์ ลุยปิดเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์
วันที่ 17 กันยายน 2567 พลตำรวจโทธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวว่า สถานการณ์การละเมิดลิขสิทธิ์ในปัจจุบันพบว่าผู้กระทำความผิดมักติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บช.สอท. และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ร่วมมือกับบริษัทเอกชนที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ พบว่า
การละเมิดลิขสิทธิ์ส่วนใหญ่เป็นการสตรีมมิ่งและเว็บไซต์ออนไลน์ที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมโยงกับการพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หวยออนไลน์ สื่อลามกอนาจาร และการให้บริการทางเพศ
“การปราบปรามจะประสบความสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและหน่วยงานเอกชน”
นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าสายงานทรูวิชั่นส์และมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย นิวส์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (ทีเอ็นเอ็น) กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการเพิ่มขึ้นของอาชญากรรมทางไซเบอร์และการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในประเทศไทย ซึ่งมีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น
ทรูวิชั่นส์ จึงได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จัดประชุมเพื่อหารือแนวทางในการจับกุมเว็บไซต์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงคอนเทนต์ผิดกฎหมาย เช่น สื่อลามกอนาจาร เว็บไซต์การพนัน ซึ่งอาจนำไปสู่การโจมตีทางไซเบอร์ อีกทั้งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ
“การร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการจับตาและเฝ้าระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เกิดการป้องกันและปราบปรามที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ทั้งนี้ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า การป้องกันและปราบปรามเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ในปัจจุบันเป็นความท้าทาย เนื่องจากการกระทำผิดทางออนไลน์ทำได้ง่ายกว่าในอดีต ดังนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปราบปรามและเท่าทันการกระทำผิดของคนร้าย วอนขอให้ประชาชนร่วมช่วยกันสอดส่องดูแล
หากพบเบาะแสสามารถแจ้งมาได้ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. หมายเลข 1441 หรือ 08-1866-3000 ตลอด 24 ชม. และแจ้งความออนไลน์ที่ www.thaipoliceonline.com รวมถึงต้องไม่สนับสนุนการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งอาจเป็นช่องทางชี้นำให้เยาวชนหลงผิด อันจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ และความมั่นคงของชาติ
โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐกับหน่วยงานเอกชน จะนำพาไปสู่การเดินหน้ายกระดับการป้องกัน และปราบปรามภัยอาชญากรรมทางไซเบอร์ เพื่อยับยั้งความเสียหายได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งเป็นเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ข้อมูลข่าวสาร ที่จะก่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ร่วมกัน เพื่อเป้าหมายหลักสำคัญคือการเสริมภูมิคุ้มกันคนไทยทั่วทุกภูมิภาคสามารถใช้ชีวิตในโลกไซเบอร์ได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย