สรุปไฮไลต์ “Dreamforce 2024” Salesforce ขนอะไรมาเปิดตัวบ้าง ?

“Salesforce” ยกทัพนวัตกรรมใหม่ เปิดตัวในงานใหญ่ประจำปี “Dreamforce 2024” ชู “Agentforce” ผู้ช่วย AI อัตโนมัติ พร้อมอัพเกรดขุมพลัง “Data Cloud” เพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลข้อมูล

วันที่ 1 ตุลาคม 2567 รายงานข่าวจากเซลส์ฟอร์ซ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “เซลส์ฟอร์ซ” (Salesforce) ผู้ให้บริการ CRM รายใหญ่ของโลก จัดงาน “Dreamforce 2024” เมื่อวันที่ 17-19 ก.ย. 2567 ณ เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เพื่อเปิดตัวและจัดแสดงนวัตกรรมล่าสุดของบริษัท พร้อมทั้งจัดเซสชั่นเสวนากว่า 1,500 เซสชั่น

โดยไฮไลต์ของนวัตกรรมและความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เกิดขึ้นในงานนี้ ประกอบไปด้วย

1.Agentforce

เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2567 Salesforce ได้เปิดตัว Agentforce หรือ AI Agent อัจฉริยะที่ทำงานโดยอัตโนมัติด้วยตนเอง (Autonomous AI Agent) ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานทั้งในด้านบริการ การขาย การตลาด และการค้า Agentforce ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถขยายขนาดการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าด้วยการทำงานแบบอัตโนมัติ พร้อมทั้งขับเคลื่อนความสำเร็จเชิงรุกของลูกค้า

Agentforce สามารถดึงข้อมูล สร้างแผนปฏิบัติการ และดำเนินการงานโดยไม่ต้องคอยใช้มนุษย์ดูแลควบคุมการทำงาน นับเป็นตัวแทนของ “คลื่นลูกที่สามของ AI” ที่นำเสนอโซลูชั่นที่มีความแม่นยำสูง และมีอาการหลอน (Hallucination) หรือข้อผิดพลาดน้อย อีกทั้งยังสามารถคาดการณ์ความต้องการของผู้ใช้ เสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และขับเคลื่อนการเติบโตให้องค์กร

นายไบรอัน มิลแฮม (Brian Millham) ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Salesforce กล่าวว่า Salesforce ได้ปรับเปลี่ยนบริษัทและแพลตฟอร์มทั้งหมดเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยช่วง 18 เดือนที่ผ่านมาเราได้เปลี่ยนแพลตฟอร์มจากระบบแชตบอต เป็นระบบ Copilot และล่าสุดคือเปลี่ยนสู่ระบบเจ้าหน้าที่อัจฉริยะหรือ AI Agent ที่มีความสามารถในการสนทนา

“Agent จะนำการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่มาสู่ลูกค้าของเรา โดยสามารถสร้างการเติบโตและขยายการดำเนินงานของบริษัททุกแห่งได้อย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทต่าง ๆ มีประสิทธิภาพในการดำเนินการสูงขึ้น”

2.โซนเปิดการใช้งาน Agentforce

ในงาน Dreamforce 2024 Salesforce ได้จัดโซนนิทรรศการที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถสร้าง AI Agent ตัวแรกภายในไม่กี่นาทีด้วยตัวเอง ณ โซนเปิดการใช้งาน Agentforce ซึ่งบริษัทต่าง ๆ จะได้สัมผัสประสบการณ์การสร้าง Agent อัตโนมัติโดยใช้ Agentforce ซึ่งสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมจะได้รับคำแนะนำแบบตัวต่อตัวจาก “Advance Force” หรือทีมผู้ให้คำแนะนำของ Agentforce เพื่อพัฒนาต้นแบบ Agent ตัวแรกโดยใช้แอป Slack ซึ่งขับเคลื่อนด้วย AI และเชื่อมต่อกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ช่วยให้การสร้าง Autonomous AI Agent สำหรับผู้ทดลองใช้ในงานง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น

3.เครือข่ายพันธมิตร Agentforce

Salesforce ได้เปิดตัวเครือข่ายพันธมิตร Agentforce Partner Network ซึ่งเป็นระบบนิเวศแบบเปิดที่ช่วยให้ Agentforce สามารถเชื่อมโยงการทำงานจากระบบภายนอกของบุคคลที่สาม (Third-Party) เพื่อทำงานที่ซับซ้อนและจำเป็นต้องใช้ระบบปฏิบัติการเชื่อมต่อจากภายนอกมากช่วยทำงาน

ภายในเครือข่าย Agentforce Partner Network ลูกค้าสามารถติดตั้ง Extension เชื่อมต่อจาก Third Party ที่เชื่อถือได้จากแพลตฟอร์ม AppExchange ของ Salesforce เพื่อปรับแต่งหรือสร้าง Agent ที่มีทักษะเฉพาะ หรือติดตั้งใช้งาน Agent ที่สร้างโดยพันธมิตรหากต้องการทำงานแบบเฉพาะทาง โดยพันธมิตรที่ร่วมเปิดตัวในเครือข่ายครั้งนี้ ได้แก่ AWS, Box, Google Cloud, IBM, Workday และ Zoom

นางสาวคลารา ชายห์ (Clara Shih) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Salesforce AI กล่าวว่า เครือข่ายพันธมิตรนี้จะช่วยให้ Agentforce สามารถทำงานบนระบบต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก Salesforce ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างศักยภาพในการทำงานอย่างไร้ขีดจำกัดให้กับลูกค้า

“เรากำลังก้าวออกจากยุคของ Copilot ที่ไม่เชื่อมโยงเข้าถึงกัน และกำลังก้าวไปสู่อนาคตของเครือข่ายที่เปิดกว้าง มีการเชื่อมต่อระหว่างระบบที่สามารถทำงานร่วมกันได้ และระบบของ Agentforce”

4.นวัตกรรม Data Cloud

Data Cloud เป็นหัวใจสำคัญของแพลตฟอร์มของ Salesforce และเป็นรากฐานสำหรับ Agentforce ทำหน้าที่รวบรวมและเชื่อมโยงข้อมูลของลูกค้าและธุรกิจเข้าด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่เข้าถึงความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งสร้างการทำงานที่ตรงกับบริบทและมีความได้ในแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่ให้บริการแบบ Customer 360 รวมถึง Flow ระบบการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ และ Agentforce

การเปิดตัวนวัตกรรมใหม่สำหรับ Data Cloud ในงาน Dreamforce 2024 ประกอบไปด้วยการเพิ่มความสามารถในการประมวลผลข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Data) ทั้งเนื้อหาในรูปแบบเสียงและวิดีโอเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้ามากขึ้น

มาตรฐานการจัดเก็บข้อมูลแบบใหม่ที่ช่วยให้ทั้งระบบ AI Agent และบุคลากรที่เป็นมนุษย์สามารถเข้าใจและใช้งานข้อมูลได้ตรงกัน พร้อมทั้งเพิ่มความสามารถในการค้นหาที่ดีขึ้นโดยคำนึงถึงบริบทของลูกค้าเพื่อค้นพบข้อมูลได้รวดเร็ว และเปิดตัวความสามารถการเปิดใช้งานข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันท่วงที

พร้อมทั้งเพิ่มคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและการกำกับดูแลข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อป้องกันการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่จำเป็นและรักษาความปลอดภัยในการปฏิบัติการ

5.Salesforce Ventures – กองทุนด้าน AI ของ Salesforce

กองทุน Salesforce Ventures กำลังขยายการลงทุนใน AI ด้วยกองทุน AI ที่สร้างขึ้นใหม่เพิ่มเติมมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ปริมาณการลงทุนในด้านผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม AI จาก Salesforce มีมูลค่ารวมเป็น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา

โดย Salesforce Ventures ได้ลงทุนในบริษัท AI จำนวน 24 บริษัท เช่น Anthropic, Cohere, Runway, ‎TogetherAI, Mistral AI และ Hugging Face ซึ่งการลงทุนครั้งนี้จะยังคงมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างมูลค่าให้กับบริษัทเหล่านี้ต่อไป โดยเป็นทั้งเงินทุนสนับสนุนในส่วนที่องค์กรต้องการ (Patient Capital) ควบคู่ไปกับการสร้างโอกาสในการเติบโต รวมถึงมอบความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจากระบบนิเวศองค์กรใน Salesforce

6.Slack AI

Slack เปิดตัวอินเตอร์เฟซสำหรับการใช้งานใหม่ด้วย Agent โดยผู้ใช้งานจะสามารถสนทนาเกี่ยวกับข้อมูลของตนเอง เรียกดูข้อมูลการวิเคราะห์เชิงลึก และขอความช่วยเหลือในการทำงานต่าง ๆ จาก Agent ของ Agentforce และ AI Agent ของ Third-Party ในเครือขายพันธมิตร เช่น ‎Adobe, Anthropic, Cohere, Perplexity เป็นต้น

นอกจากนี้ Channel ของ Slack ประเภทใหม่ที่เชื่อมต่อกับข้อมูลที่บัญชีลูกค้าในระบบ CRM ของ Salesforce กับการสนทนาใน Channel ต่าง ๆ ยังช่วยให้พนักงานมีพื้นที่ทำงานร่วมกันและมีมุมมองของข้อมูลลูกค้าที่ตรงกันแบบเรียลไทม์ เพื่อผลักดันการทำงานของทีมให้ก้าวหน้าต่อไป

7.การฝึกอบรมด้าน AI ฟรี

Salesforce ได้ประกาศแผนการขยายโอกาสในการพัฒนาทักษะด้วยการเปิดให้ทุกคนสามารถเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตร AI ขั้นสูงและให้การรับรองมาตรฐานด้าน AI ผ่านทางแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ Trailhead ได้ฟรี จนถึงสิ้นปี 2025

อีกทั้ง Salesforce จะมีการเปิดพื้นที่ใหม่ ณ สำนักงานใหญ่ในเมืองซานฟรานซิสโก ซึ่งจะประกอบด้วยศูนย์ AI Center ชั่วคราว เพื่อให้พนักงาน และผู้ที่สนใจเข้ามาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้กันได้ภายในสถานที่ และมีแผนการที่จะขยายพื้นที่ AI Center ไปยังอีกหลายเมืองทั่วโลก นับเป็นการลงทุนมูลค่ากว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยยกระดับความสามารถให้กับพนักงาน และลดช่องว่างทางทักษะด้าน AI ที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น

รายงานระบุด้วยว่า งาน Dreamforce ในปีนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 45,000 คน และยังมี Trailblazers หรือผู้นำในชุมชนของ Salesforce ที่รับชมผ่านช่องทางออนไลน์ของ Salesforce+ มากกว่า 150,000 คน รวมถึงมีผู้เชี่ยวชาญด้าน AI มาร่วมงานอย่างคับคั่ง เช่น Daniela Amodei ผู้ร่วมก่อตั้ง Anthropic และ Lisa Su ซีอีโอของ AMD ร่วมด้วยวิทยากรผู้มีชื่อเสียง เช่น Kerry ‎Washington, Jane Goodall และ Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia

​