ผู้บริหารไทยคิดเห็นอย่างไรกับการใช้ Generative AI ในองค์กร ?

ผู้บริหารไทย-Generative AI

“Salesforce” เผยผลสำรวจแนวโน้มการใช้ Generative AI จากความเห็นของผู้บริหารในไทย 225 คน พบ 100% ไว้วางใจที่จะมอบหมายงานให้ AI ทำอย่างน้อย 1 ด้าน โดยไม่ต้องมีการควบคุมจากมนุษย์ภายใน 3 ปี

วันที่ 10 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “เซลส์ฟอร์ซ” (Salesforce) ผู้ให้บริการระบบ CRM รายใหญ่ของโลก และ “YouGov” ร่วมกันทำวิจัยในหัวข้อ “มุมมองของผู้บริหารระดับสูงในประเทศไทยต่อเทคโนโลยี Generative AI“

โดยรวบรวมความคิดเห็นจากผู้บริหารระดับสูงในไทยจำนวน 225 คน จากองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีพนักงานมากกว่า 250 คนขึ้นไป เช่น ประธานฝ่ายสารสนเทศ (CIO) หรือประธานฝ่ายสายงานเทคโนโลยี  (CTO) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท (CEO) เป็นต้น

รายละเอียดของข้อมูลจากงานวิจัยชิ้นนี้แบ่งเป็น 4 ประเด็นที่น่าสนใจ ได้แก่

1.ความสำคัญของ Generative AI ต่อการดำเนินธุรกิจ

  • ผู้บริหารกว่า 84% มองว่าภายใน 3 ปีข้างหน้า Generative AI เป็นหนึ่งในสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุดในการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ โดย 37% มองว่า Generative AI มีความสำคัญมากที่สุดเป็นลำดับแรก และ 47% มองว่าเป็นหนึ่งในสามสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุด
  • ผู้บริหารระดับสูงกว่า 58% บอกว่าองค์กรมีกลยุทธ์ด้าน Generative AI ที่กำหนดขึ้นอย่างชัดเจนแล้ว ขณะที่ผู้บริหารจำนวน 38% บอกว่าเริ่มวางแผนเพื่อกำหนดกลยุทธ์ด้านนี้แล้วเช่นกัน
  • 3 ปัจจัยที่ผลักดันให้ผู้บริหารจัดลำดับความสำคัญกับการนำ Generative AI มาใช้ในองค์กร ได้แก่ 1.ความคาดหวังจากลูกค้า ที่ต้องการความรวดเร็วและประสบการณ์ที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลมากยิ่งขึ้น (44%) 2.ความต้องการของพนักงานในการนำเครื่องมือ Generative AI มาใช้ในองค์กร (44%) และ 3.ความต้องการขององค์กรที่จะนำนวัตกรรมที่สร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ มามอบให้กับลูกค้าและพนักงาน (41%)

YouGov X Salesforce Thailand - Thai C Suites are commited to Gen AI integration

นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 30% ยังมองว่าประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ เป็นผู้ที่มีความสำคัญและความรับผิดชอบมากที่สุดต่อความสำเร็จในการนำ Generative AI มาใช้งาน และสนับสนุนให้องค์กรมีความพร้อม โดย 28% ระบุว่าเป็นประธานฝ่ายสารสนเทศ หรือประธานฝ่ายสายงานเทคโนโลยี และ 24%‎ ระบุว่าคือหัวหน้าแผนกงานด้านต่าง ๆ

ADVERTISMENT

2.อุปสรรคในการนำ Generative AI มาใช้ในองค์กร

อุปสรรคและปัญหาที่พบจากการสำรวจ ได้แก่

  • Generative AI มักให้ผลการทำงานที่ขาดความถูกต้องแม่นยำ (29%)
  • การใช้ข้อมูลสาธารณะที่ขาดความครบถ้วนและไม่เป็นปัจจุบันในการฝึกโมเดล AI (28%)‎
  • การใช้ข้อมูลลูกค้าหรือข้อมูลบริษัทที่ไม่ครบถ้วน ในการฝึกโมเดล AI (28%)‎
  • ปัญหาการปกป้องความเป็นส่วนบุคคลและความปลอดภัยของข้อมูล (28%)‎

สำหรับกลุ่มธุรกิจที่มีพนักงานมากกว่า 1,000 คน ผลสำรวจพบว่าประเด็นด้านความเป็นส่วนบุคคลและความปลอดภัยของข้อมูลถือเป็นอุปสรรคที่ผู้บริหารเลือกมากที่สุดเป็นอันดับ 2 (30%)

ADVERTISMENT

ส่วนประเด็นเรื่องการสร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่นต่อการใช้เครื่องมือ Generative AI ผู้บริหารที่ตอบแบบสอบถามกว่า 98% ระบุว่าความถูกต้องแม่นยำ‎เป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการมีข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์ (96%) และการปกป้องความเป็นส่วนบุคคลและความปลอดภัยของข้อมูล (97%) คือสิ่งสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่นในการใช้ Generative AI

YouGov X Salesforce Thailand - Data Matters 2

3.ผลตอบแทนจากการลงทุนในเทคโนโลยี Generative AI

  • ผู้บริหารระดับสูงระบุว่าฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศหรือ IT เป็นด้านที่ได้รับผลเชิงบวกจากเทคโนโลยี Generative AI มากที่สุด ‎(44%)‎ โดยฝ่ายปฏิบัติการเป็นอีกส่วนที่ได้รับผลเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ ‎(30%)
  • ผู้บริหารมองเห็นผลกระทบเชิงบวกของ AI ในฝ่ายงานที่ต้องติดต่อสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น ฝ่ายบริการลูกค้า (26%) และฝ่ายขาย (23%)

4.ความมั่นใจที่จะให้ AI ดำเนินงานแบบอัตโนมัติ

  • ภาคธุรกิจกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของคลื่นลูกที่สามในการพัฒนา AI นั่นคือ Autonomous AI หรือ AI ที่ทำงานได้ด้วยตัวเองแบบอัตโนมัติ สามารถทำงานที่ซับซ้อนได้ด้วยตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องมีมนุษย์เข้ามาคอยควบคุมกำกับ
  • ผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดที่เข้าร่วมในการวิจัย ระบุว่าเชื่อมั่นและไว้วางใจที่จะมอบหมายงานตามที่ระบุในการสำรวจอย่างน้อยหนึ่งด้าน ให้ AI เป็นผู้ดำเนินการโดยไม่ต้องมีการควบคุมกำกับจากมนุษย์ภายใน 3 ปีข้างหน้า