Alphluencer อินฟลูเอนเซอร์ ‘เจนอัลฟ่า’ ดาวดวงใหม่จากพ่อแม่ยอดนักปั้น

Alphluencer

“ประชาชาติธุรกิจ” ชวนทำความรู้จัก ‘Alphluencer’ อินฟลูเอนเซอร์ ‘เจนอัลฟ่า’ หนูน้อยนักรีวิวจากพ่อแม่ ‘Sharenting’ ที่ชอบแชร์เรื่องราวของลูกผ่านโซเชียลมีเดีย

วันที่ 14 ตุลาคม 2567 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่แปรผันไปตามกาลเวลาอย่างรวดเร็ว เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนแต่ละ “เจน” (Generation) มีแคแร็กเตอร์ หรือไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน ยิ่งกับเจน “อัลฟ่า” (Alpha) ที่เติบโตมาในยุคที่โซเชียลมีเดียกำลังบูม ยิ่งแตกต่างกับเจนอื่น ๆ ที่ห้อมล้อมไปด้วยโลกที่ยังผสมผสาน ระหว่างความเป็นแอนะล็อกและดิจิทัลอย่างชัดเจน

รายงานเจาะเทรนด์โลก 2025 (Trend 2025 : BEYOND IMAGINATION) โดยศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) รวบรวมข้อมูลและสิ่งที่น่ารู้เกี่ยวกับหนูน้อย-วัยรุ่นเจนอัลฟ่า หรือคนที่เกิดในปี 2553-2567 มาสรุปไว้ ดังนี้

ขึ้นแท่น “เจน” ที่มีจำนวนมากสุดในปี 2568

ในปี 2568 ประชากรเจนอัลฟ่าจะมีจำนวน 2.2 พันล้านคน ถือเป็นเจนที่มีจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างสมบูรณ์ และภายในปี 2573 เจนอัลฟ่ารุ่นแรกจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ (อายุ 20 ปี) และก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงาน แบรนด์ต่าง ๆ จะต้องลำดับสิ่งที่เจนอัลฟ่าให้ความสำคัญ โดยครอบคลุมถึงเงื่อนไขในวัยเด็ก เช่น วิกฤตสภาพภูมิอากาศ อัตราเงินเฟ้อ และสุขภาพจิต เป็นต้น

เจเนอเรชั่นแห่งการถดถอย

เจนอัลฟ่าถูกนิยามว่าเป็นเจเนอเรชั่นแห่งการถดถอย (The Regression Generation) จากอัตราการอ่านออกเขียนได้ที่ลดลง การศึกษาในปี 2566 พบว่ามีเพียง 28% ของเด็กอายุ 8-18 ปีที่อ่านหนังสือทุกวัน การสนับสนุนหรือสร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้สำหรับผู้ปกครองและเด็กที่ห้องสมุดท้องถิ่นหรือศูนย์ชุมชน เพื่อส่งเสริมการอ่านให้เป็นกิจกรรมยามว่าง และลดช่องว่างทางการเรียนรู้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

เกินครึ่งจะทำงานตำแหน่งที่ไม่มีในปัจจุบัน

คาดการณ์ว่า 65% ของเจนอัลฟ่าจะทำงานในตำแหน่งที่ไม่มีอยู่ในปัจจุบัน มีเพียง 50% ของเจนนี้ที่คาดว่าจะสำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และอาจหันไปทำงานสายอาชีพเพื่อสร้างความมั่นคงในสาขางานที่ทดแทนด้วยระบบอัตโนมัติไม่ได้

แบรนด์สามารถร่วมพัฒนาคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถผ่านโปรแกรมการฝึกงาน หรือโครงการวิจัยและพัฒนา เพื่อช่วยให้เจนอัลฟ่าได้สร้างทักษะใหม่ ๆ สนับสนุนความมั่นใจ และเพิ่มโอกาสในการทำงาน

ADVERTISMENT

คอนเทนต์ครีเอเตอร์ = อาชีพในฝัน

การเติบโตมากับสื่อดิจิทัล และการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้เจนอัลฟ่ามีความฝันที่จะเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในอนาคต

ผลการศึกษาในสหรัฐอเมริกา พบว่าตัวเลือกอาชีพที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเจนอัลฟ่า คือติ๊กต๊อกเกอร์ ยูทูบเบอร์ หรือบล็อกเกอร์ เคียงคู่ไปกับการให้ความสำคัญเรื่องการดูแลโซเชียลมีเดีย เพื่อปกป้องและพัฒนาพื้นที่ออนไลน์ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับครีเอเตอร์รุ่นเล็ก

พ่อแม่ Sharenting สร้าง “อัลฟลูเอนเซอร์”

ท่ามกลางความท้าทายของเทคโนโลยี รวมถึงพฤติกรรมของการเป็นพ่อแม่ ปรากฏการณ์ “Sharenting” (Share + Parenting) หรือการแชร์เรื่องราวของลูกผ่านโซเชียลมีเดีย มาพร้อมกับความเสี่ยงและผลเสีย ทั้งการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตและการระบุตัวตนของผู้ปกครองและเด็ก นำมาซึ่งข้อกำหนดด้านการยินยอมทางดิจิทัลของเจนอัลฟ่า ที่ต้องทำความเข้าใจกันใหม่

แบรนด์ต่าง ๆ ควรตระหนักรู้และร่วมจัดการกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการแสวงหาผลประโยชน์จากเด็ก ส่งเสริมการดูแลด้านดิจิทัล และสร้างพื้นที่ดิจิทัลที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับอินฟลูเอนเซอร์เจนอัลฟ่า หรือ “อัลฟลูเอนเซอร์” (Alphluencers) ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่างของอัลฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา เช่น ผู้ใช้ TikTok @garzacrew, @bella.mama.tok และ @nishanoelleandfam เป็นต้น

ร่วมกันปกป้อง “อัลฟลูเอนเซอร์”

แม้ว่าอายุการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างเป็นทางการคือ 13 ปี แต่ 40% ของเจนอัลฟ่าเริ่มใช้งานอินเทอร์เน็ตในช่วงอายุ 8-12 ปี และอัลฟลูเอนเซอร์ ก็เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ หรืออินฟลูเอนเซอร์ให้กับแบรนด์ต่าง ๆ มากมาย

ข้อกังวลนี้นำมาซึ่งการร่างกฎหมายใหม่ เช่น ในสหรัฐอเมริกา Kids Online Safety Act เป็นร่างกฎหมายของทั้งสองฝ่ายที่มีเป้าหมายเพื่อปกป้องเด็กทางออนไลน์ โดยจะต้องมีเครือข่ายโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์วิดีโอเกม และแอปพลิเคชั่นส่งข้อความ เพื่อป้องกันอันตรายต่อผู้ใช้ ทั้งประเด็นด้านการกลั่นแกล้งออนไลน์ การล่วงละเมิดการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ หรือการทำร้ายตนเองสำหรับเด็กที่ใช้แพลตฟอร์มของธุรกิจนั้น ๆ

สุขภาพจิตสำคัญที่สุด

เจนอัลฟ่าจะเป็นผู้ขับเคลื่อนธุรกิจและอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ โดยเลือกประกอบอาชีพที่ส่งเสริมสุขภาพจิดและความเป็นอยู่ที่ดี เพราะพวกเขาเติบโตมากับการตระหนักถึงผลเสียของโลกแห่งความรีบเร่งและสภาพแวดล้อมที่เคร่งเครียดเป็นอย่างดี

ในยุโรปตะวันตกครอบครัว 79% คำนึงถึงสุขภาพจิตต่อการเลี้ยงดูลูก รวมถึงธุรกิจต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องเริ่มจ้างงานในตำแหน่งที่เน้นเรื่องความเป็นอยู่และความสุขของพนักงานเป็นสำคัญ

ส่วนในสิงคโปร์ เจนอัลฟ่าที่เข้าสู่วัยรุ่น 1 ใน 3 ต้องเป็นทุกข์จากภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล โดยองค์การอนามัยโลกแนะนำว่า เด็กอายุ 1-5 ปีควรใช้เวลาเล่นกลางแจ้งอย่างน้อย 3 ชั่วโมงต่อวัน เด็กและวัยรุ่นที่มีอายุ 5-17 ปี ควรออกกำลังกายระดับปานกลางถึงหนักอย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อวัน

ดังนั้น พ่อแม่เจนมิลเลนเนียล (Millenials) หรือคนที่เกิดตั้งแต่ปี 2523-2538 ที่รักธรรมชาติจึงกระตือรือร้นในการสนับสนุนให้ลูก ๆ มีส่วนร่วมในกิจกรรมและไลฟ์สไตล์กลางแจ้ง เพราะมองว่าการเล่นกลางแจ้งเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาสุขภาพจิตของเด็กได้

ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม

การที่เจนอัลฟ่าเติบโตขึ้นมาท่ามกลางภาวะฉุกเฉินด้านสภาพอากาศ และพบกับเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วจนกลายเป็นเรื่องปกติ ทำให้เจนนี้ตระหนักถึงความท้าทายด้านสภาพอากาศมากขึ้น โดยธุรกิจต่าง ๆ สามารถส่งเสริมนักเคลื่อนไหวรุ่นเล็กได้ด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศ จากทรัพยากร ผลิตภัณฑ์ และประสบการณ์ที่เหมาะสมกับช่วงวัย

รวมถึงเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพและธรรมชาติ เช่น การร่วมมือกับองค์กรการกุศลด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนการศึกษาด้วยตนเอง และจัดกิจกรรมสะท้อนความคิดที่ส่งเสริมให้เจนอัลฟ่าพัฒนาความเข้าใจเรื่องสิ่งแวดล้อมได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น