
“ประชาชาติธุรกิจ” ชวนส่องบรรยากาศ Binance Blockchain Week Dubai 2024 การกลับมาจัดงานที่เมืองดูไบในครั้งนี้ยังชวนฉายภาพให้เราได้เห็นวิสัยทัศน์ที่ทะเยอทะยานของเหล่าผู้นำในดูไบที่อยากผลักดันให้เมืองเป็นศูนย์กลางของโลกด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคต
ตัวงาน Blockchain week ครั้งนี้ ยังหวนชวนให้คิดอีกครั้งว่า ทำไม ดูไบ จึงเป็นมิตรกับบล็อกเชน-คริปโตเคอร์เรนซี
“ริชาร์ด เทง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Binance.com แพลตฟอร์มคริปโตเคอร์เรนซี กล่าวว่า งาน Blockchain week เป็นพื้นที่ของการพบปะและสร้างสรรค์ชุมชน Binance ทั้งพันธมิตร ผู้กำกับดูแล นักพัฒนา และผู้ใช้งาน Binance ทั่วโลก
“ธีมสำหรับปีนี้คือ ‘โมเมนตัม’ ด้วยปี 2024 เป็นปีที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะเหตุการณ์การอนุมัติ spot Bitcoin ETF ที่ให้ความน่าเชื่อถือแก่บล็อกเชน ซึ่งเป็นการการยอมรับบล็อกเชนในกระแสการเงินหลักและการยอมรับของสถาบันกว่า 200 แห่ง แสดงถึง “โมเมนตัม” ที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไปข้างหน้า ทําให้บริษัทสามารถก้าวข้ามความท้าทายและสร้างพื้นฐานที่มั่นคงสําหรับอนาคต
Binance Blockchain Week เป็นเวทีที่มีพื้นฐานมาจากการร่วมมือ นำเสนอนวัตกรรม และความยืดหยุ่น
สำหรับปี 2024 นี้ มีผู้เข้าร่วมกว่า 30,000 คน และวิทยากร 200 คนจากทั่วโลก เพื่อสำรวจขอบเขตใหม่ในบล็อกเชน ทั้งในฝั่งของคริปโตเคอร์เรนซี การพัฒนาด้านกฎระเบียบ การเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) และนวัตกรรมของ Web3
ทำไมดูไบเปิดกว้างสำหรับบล็อกเชน-คริปโตฯ
ฯพณฯ คัลฟาน เบลฮูล ซีอีโอของมูลนิธิ Dubai Future Foundation (DFF) ได้กล่าวถึงดูไบในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ว่าทั้งเมืองมีแค่ท่าเรือสินค้าแห่งเดียวที่เจเบล อาลี แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้นำในขณะนั้นได้วางรากฐานการขยายท่าเรือและการขนส่ง และต้องการเปลี่ยนเรื่องราวของตะวันออกกลางจากภูมิภาคที่มีความขัดแย้งเป็นแสงนำทางของเทคโนโลยี นวัตกรรม และสันติภาพ
ส่วนสำคัญคือ ผู้นำนวัตกรรมที่มองไปไกลกว่าความท้าทายในปัจจุบัน ที่อยู่เหนือความวุ่นวายเพื่อกําหนดเส้นทางสําหรับอนาคต
สำหรับ DFF เป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการสนับสนุนการศึกษาวิจัย เพื่อวางรากฐานอนาคตของประเทศ โดยโฟกัส 5 ด้านยุทธศาสตร์
1.การศึกษา อนาคต มองการณ์ไกล และจินตนาการ ความคิดระดับสูงและความคิดริเริ่มเชิงกลยุทธ์ที่สร้างพื้นที่ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงแบบทวีคูณ ในขณะที่มั่นใจว่าระบบนิเวศด้านกฎระเบียบและการเงินวิวัฒนาการให้พอดี
2.การเผยแพร่เนื้อหาและองค์ความรู้ ความรู้ที่ข้ามพรมแดนให้ทั้งตะวันออกกลาง มุ่งมั่นเป็นที่ตั้งของโครงการริเริ่มมากมายที่คัดสรร และเผยแพร่งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย นวัตกรรมทางเทคโนโลยีและทางสังคม
3.Capacity Building การสร้างทักษะและความสามารถเพื่อตอบสนองวิสัยทัศน์นี้ เช่น โครงการสร้างพัฒนาซอฟต์แวร์ 1 ล้านคน One Million Arab Coders รวมถึงการปลูกฝังทักษะระดับโลกที่จำเป็นสำหรับอนาคต
4.Future Design & Acceleration มูลนิธินำความคิดและเปลี่ยนให้เป็นโอกาส มันเปลี่ยนความท้าทายเป็นกรณีศึกษา แนวคิดให้เป็นจริง มีการส่งเสริมระบบนิเวศให้เหมาะสมเพื่อเปลี่ยนดูไบให้เป็นพื้นที่ทดสอบสำหรับเทคโนโลยีใหม่และแนวทางใหม่
5.Future Experience นอกจากการพยายามจินตนาการถึงอนาคตและความเป็นไปได้มากมาย จะต้องแสดงให้เห็นและมีประสบการณ์ร่วม ผ่านพิพิธภัณฑ์แห่งอนาคต ทำให้วาระในอนาคตของดูไบเป็นศูนย์กลางและเป็นที่สนใจของทุกคน
ในส่วนของเทคโนโลยีบล็อกเชน-คริปโตเคอร์เรนซีนั้น รัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในการทำธุรกรรม ได้เปิดตัวกลยุทธ์บล็อกเชนของเอมิเรตส์ 2021 และกลยุทธ์บล็อกเชนของดูไบ มีเป้าหมายที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อเปลี่ยนธุรกรรมของรัฐบาล 50 เปอร์เซ็นต์ให้เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนภายในปี 2021
กลยุทธ์ Dubai Blockchain จะช่วยให้ดูไบเป็นเมืองแรกที่ขับเคลื่อนด้วย Blockchain ภายในปี 2020 และทำให้ดูไบเป็นเมืองที่มีความสุขที่สุดในโลก กลยุทธ์จะใช้เสาหลักยุทธศาสตร์ 3 ประการ คือ ประสิทธิภาพของรัฐบาล การสร้างอุตสาหกรรม และการเป็นผู้นำระหว่างประเทศ
Dubai Future Foundation ได้จัดตั้ง Global Blockchain Council เพื่อสำรวจ หารือเกี่ยวกับการใช้งานในปัจจุบันและอนาคต และจัดระเบียบธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์ม Blockchain สภาจะอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมภายในภาคต่าง ๆ ของภาคการเงินและภาคที่ไม่ใช่การเงิน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพและระดับความน่าเชื่อถือ สภาประกอบด้วยสมาชิก 46 คน ซึ่งรวมถึงหน่วยงานของรัฐ บริษัทระหว่างประเทศธนาคารชั้นนำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เขตปลอดอากร และบริษัทเทคโนโลยีบล็อกเชนระหว่างประเทศ