แอสเซนด์ มันนี่ ไถ่ถอนหุ้นกู้แอสเซนด์ นาโน 392.3 ล้านบาท ก่อนกำหนด

แอสเซนด์ มันนี่ ประกาศไถ่ถอนหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของบริษัทย่อย มูลค่า 392,300,000 บาท ก่อนครบกำหนด โชว์ความมั่นคงทางการเงิน 

นางสาวอชิรา เตาลานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า การตัดสินใจไถ่ถอนหุ้นกู้ แอสเซนด์ นาโน ก่อนกำหนดในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัท สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางการเงินและการบริหารจัดการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ การปรับปรุงโครงสร้างเงินทุน และลดภาระดอกเบี้ยในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงและเตรียมพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ ต่อไป

บริษัท แอสเซนด์ นาโน จำกัด อยู่ภายใต้กลุ่มบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด และมีบทบาทสำคัญในการขยายบริการและการเข้าถึงสินเชื่อดิจิทัลในประเทศไทย โดยหนึ่งในผลิตภัณฑ์สำคัญของแอสเซนด์ นาโน คือ เพย์เน็กซ์ (Pay Next) ซึ่งเป็นบริการวงเงินและสินเชื่อที่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชั่นทรูมันนี่ (TrueMoney) ที่มีผู้ใช้งานครอบคลุมกว่า 32 ล้านคนในประเทศไทย

“ที่ผ่านมา แอสเซนด์ นาโน ได้มีการนำระบบบริหารความเสี่ยงที่ครอบคลุมมาใช้เพื่อให้มั่นใจว่าการให้สินเชื่อเป็นไปตามนโยบายการให้สินเชื่ออย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ โดยบริษัทได้นำเทคโนโลยีเอไอและการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง รวมทั้งการคำนวณความเสี่ยงทางการเงินที่ประเมินจากข้อมูลทางเลือก
(Alternative Data) เช่น พฤติกรรมการเติมเงินและการใช้จ่ายผ่านแอปมาประยุกต์ใช้ในการประเมินสินเชื่อ”

การประเมินแบบครอบคลุมนี้ ทำให้แอสเซนด์ นาโน สามารถวิเคราะห์ความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ที่สมัครสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาข้อมูลเครดิตแห่งชาติเพียงอย่างเดียว​ ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคและธุรกิจรายย่อยที่แต่ก่อนไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้จากสถาบันการเงิน สามารถสมัคร รู้ผล
และเข้าถึงแหล่งเงินทุนและผลิตภัณฑ์การเงินที่หลากหลายได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่านแอปพลิเคชั่นทรูมันนี่

ดยการบริการวงเงินและสินเชื่อในรูปแบบดังกล่าวได้เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย เช่น พ่อค้า แม่ค้า สามารถเข้าถึงแหล่งเงินฉุกเฉินในเวลาที่จำเป็น ไปพร้อม ๆ กับต่อยอดการเติบโตของธุรกิจของตนได้โดยไม่ต้องพึ่งพาแหล่งเงินกู้นอกระบบ

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ แอสเซนด์ นาโน ยังมีการควบคุมการปล่อยวงเงินและสินเชื่อโดยปรับไปตามพฤติกรรมและความ
สามารถในการชำระหนี้ของผู้ใช้ เพื่อเสริมสร้างวินัยและการใช้วงเงินอย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นของพวกเขาเหล่านี้