คอลัมน์ Pawoot.com โดย ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ
ทุกวันนี้ Facebook ปรับการแสดงผลข้อมูลบน News Feed ใหม่ โดยให้ข้อมูลของเพื่อนหรือครอบครัวในเฟซบุ๊กมาก่อน ส่วนฟีดข่าวที่ไม่ใช่เพื่อนและครอบครัวจะถูกลดระดับความสำคัญลง เช่น เพจธุรกิจหรือเพจโฆษณาขายสินค้า มีอัตราการมองเห็นข้อความ หรือรูปภาพที่โพสต์ต่ำกว่า 1% เพื่อโปรโมตร้าน ซึ่งจะทำให้คนเห็นโพสต์น้อยลงกว่าเดิมมาก ถ้าไม่มีการปฏิสัมพันธ์กับลูกเพจอย่างสม่ำเสมอ
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
แต่ตอนนี้ผมมีเครื่องมือที่ช่วยโปรโมตแบรนด์ของคุณ ให้มียอดไลก์ ยอดแชร์มากขึ้นแล้วครับ
เครื่องมือเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นของฟรี แต่ถ้าใครอยากอัพเกรดเวอร์ชั่นให้พรีเมี่ยมมากขึ้น ก็มีเหมือนกัน
1.Canva
เป็นเครื่องมือสำหรับคนทำภาพกราฟิก ออกแบบและปรับแก้รูปภาพได้เต็มที่ มีเทมเพลตให้เลือกกว่า 100 เทมเพลต ซึ่งสามารถนำมาใช้แทน Photoshop หรือซอฟต์แวร์แต่งรูปอื่น ๆ
ได้ในขั้นพื้นฐานที่ไม่จำเป็นต้องปรับแต่งอะไรให้มากนัก
2.Facebook Timeline Contest
เป็นเครื่องมือฟรีใช้ในการเพิ่ม Engagement ในหน้าเพจ โดยมี Feature 3 อย่าง คือ Quiz, Sweepstakes, Photo Contest ซึ่งจะมีการจัด Contest ให้กับเหล่าแฟนเพจในเรื่องใดก็ได้ และจะสุ่มเลือกผู้ชนะจากคนที่มียอดไลก์และยอดคอมเมนต์สูงสุดต่อโพสต์นั้น หรือผู้ที่ตอบคำถามถูกต้องจากควิซนั้น
3.LikeAlyzer
เป็นเครื่องมือวัดผลและวิเคราะห์ประสิทธิภาพใน Facebook Page ของเราครับ เพราะเมื่อเราโพสต์ เรามักจะไม่รู้ว่าต้องแก้ไขอะไรเพิ่ม แต่ถ้ามีสถิติมาคอยชี้วัดโดยตรง จะยิ่งควบคุมผลลัพธ์ของจำนวน Engagement ให้ได้มากตามที่ต้องการได้
4.Buffer
เป็นเครื่องมือช่วยจัดการเวลาในการโพสต์ Content ในเวลาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อให้เข้าถึงจำนวนคนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่ง Content เหล่านั้นอาจจะเป็นรูปภาพ หรือวิดีโอก็ได้
สำหรับเครื่องมือนี้ใช้ฟรีได้ 10 โพสต์ต่อ 1 โปรไฟล์ ถ้าใครอยากใช้เพิ่มก็สามารถจ่ายเพิ่มได้ 10$/1 เดือน
5.Facebook Ads Compass
เป็นการรายงานผลจาก Facebook Ads Campaign ที่เราทำในแต่ละครั้งว่าเข้าถึงคนได้มากแค่ไหน อีกทั้งสามารถระบุคนที่เข้ามาได้ ว่ามีเพศ อายุ อะไร มาจากประเทศอะไร เมืองอะไร รวมถึงบอกอุปกรณ์ที่คนเข้าใช้ Facebook ได้อีกด้วย ทำให้รู้ว่า Campaign ไหนควรทำ ไม่ควรทำ เป็นการประหยัดเงิน ประหยัดเวลาของเราด้วยครับ
เครื่องมือแต่ละอย่างมีความสามารถเฉพาะตัว ถ้ารู้จักใช้ให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์ต่อเพจ ก็เพิ่มหรือเปลี่ยนผู้ใช้มายังผู้ซื้อได้มากขึ้นเท่าตัวเลยครับ CR. http://www.practicalecommerce.com/16-Free-Tools-for-Facebook-Marketing