KBTG เผยวิชั่นปี 2568 ชูแนวคิด “Agentic AI” ผสานการทำงานระหว่างโมเดล AI รับ 3 เทรนด์สำคัญ เดินหน้าสู่ AI-Infused Organization ตั้งเป้าสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจมากกว่า 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2572
นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป เปิดเผยว่า ตลอดปี 2567 ทาง KBTG ได้บรรลุความสำเร็จด้าน AI ในหลายมิติ เริ่มตั้งแต่การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม AI เช่น AINU, THaLLE, Future You, คู่คิด, AI-Enabled VDO Analytics, Document OCR ไปจนถึงการพัฒนา AthenaMind แพลตฟอร์มสร้าง AI Agent หรือโมเดล AI เฉพาะทางสำหรับใช้งานภายในองค์กร
โดย AI Agent ตัวแรกที่ได้มีการเปิดให้พนักงาน KBTG ใช้งานเป็นที่เรียบร้อยคือ HR Chat Agent ช่วยตอบคำถามและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของพนักงาน เช่น ประกันกลุ่ม บัญชีค่าใช้จ่าย กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และการลา
นอกจากนี้ KBTG ยังมีการสร้างพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมและงานวิจัยด้านเทคโนโลยี AI ทั้งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ), สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIAT), AI Singapore, Google Research, MIT Media Lab และ AI Fund
รวมถึงได้รับคัดเลือกตีพิมพ์งานวิจัยในงานประชุมนานาชาติ The 62nd Annual Meeting of the Association for Computational Linguistics (ACL 2024) มีการตีพิมพ์ผลงานในวารสารนานาชาติรวมทั้งหมด 30 ฉบับ แบ่งเป็น Rank A* 2 ฉบับ และ Rank A 5 ฉบับ
โดยนำไปต่อยอดสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI การยกระดับ eKYC ด้วย Computer Vision และการตอบคำถามลูกค้าแบบเรียลไทม์ผ่าน Chatbot โดย NLP เป็นต้น
นายเรืองโรจน์กล่าวต่อว่า ปี 2568 เทคโนโลยี AI จะเข้ามามีบทบาทกับการดำเนินชีวิตผ่าน 3 เทรนด์ ได้แก่
1.AI for Human Intelligence การใช้ AI เพื่อช่วยในการตัดสินใจและสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ (AI-Driven Business Impact)
2.AI Agent โมเดล AI เฉพาะทางที่สามารถทำงานและตัดสินใจแบบ End-to-end ได้อย่างแม่นยำ
3.AI Guardrails การใช้งาน AI อย่างมีความรับผิดชอบเพื่อลดความเสี่ยง ผ่านการสร้างความตระหนักรู้และการกำกับดูแลที่มีความครอบคลุม แต่ยังคงมีความยืดหยุ่น
ดังนั้น ทิศทางการดำเนินธุรกิจของ KBTG ในปี 2568 จะมุ่งไปที่ “Agentic AI” หรือโมเดล AI ที่ไม่เพียงแค่สามารถปฏิบัติการได้เอง แต่ยังประสานงานและสั่งการ AI ตัวอื่น ๆ เพื่อทำงานซับซ้อนได้มากขึ้น และจะเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI โดยวางมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ผ่าน 3 เรื่องหลัก ได้แก่
1.Agentic Platformization การสร้างแพลตฟอร์มใหม่เพื่อจัดการ Agent ให้ง่าย สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทำงานร่วมกันกับมนุษย์ได้ ยกตัวอย่างเช่น AthenaMind แพลตฟอร์มสร้าง AI Agent ที่ KBTG พัฒนาใช้เองภายในองค์กร
เปรียบเสมือน AI Agent Factory ช่วยสร้าง AI Agent เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในแต่ละส่วนงานของ KBTG ซึ่งปัจจุบันองค์กรกำลังอยู่ในระหว่างการวางแผนพัฒนา AI Agent สำหรับหน่วยงานส่วนอื่น ๆ เช่น PDPA Chat Agent และ Regulatory Chat Agent
2.Agentic Orchestration การสร้างและออกแบบกระบวนการใหม่ (Operation Workflow) เพื่อให้ AI Agent กับมนุษย์ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ เช่น เบื้องต้นมีการนำ AI Coding Assistant มาใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการทำงานของ Developer โดยสามารถลดเวลาการทำงานของ Developer เบื้องต้นได้ไม่ต่ำกว่า 20% และมีการสร้างโค้ดด้วย AI ไปแล้ว 500,000 Line of Code
ก้าวต่อไปคือการเพิ่มความสามารถจาก AI Coding Assistant ไปเป็น AI Coding Agent ซึ่งจะมีความสามารถเปรียบเสมือน Junior Developer ที่สามารถเขียนโค้ดได้ตั้งแต่ต้นจนจบจากการให้ Requirement ที่ชัดเจน ช่วยลดระยะเวลาในการเขียนโค้ด และทำให้ Software Development Life Cycle รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
3.Agentic Humanization การเตรียมความพร้อมของคนทั้งด้านแนวคิด ทักษะ และวัฒนธรรมการทำงานที่เปิดกว้าง พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถด้าน AI มากยิ่งขึ้น สร้างสิ่งที่เรียกว่า Human-AI Workforce Integration เพื่อส่งเสริมการผสมผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับการทำงานของพนักงานในทุก ๆ วัน
ปัจจุบัน KBTG ได้บรรลุเป้าหมาย 100% ด้าน AI Literacy สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ AI ให้พนักงานทุกคน มีการสร้างชมรม Machine Learning, AI, Data Analytics (M.A.D. Guild) และกลุ่มผลักดันการใช้งาน AI อย่างแพร่หลาย (KBTG Democratization of AI : K-DAI Council) เพื่อจะมุ่งทำ Human Transformation พัฒนาบุคลากรให้สามารถดึงศักยภาพสูงสุดของตัวเอง โดย AI จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยปลดล็อกและนำพาไปสู่เป้าหมายที่วางไว้
“KBTG ตั้งเป้าจะสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจมากกว่า 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2572 ด้วยการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็น AI-Infused Organization ปรับกระบวนการทำงานภายในองค์กร ให้ AI เข้ามามีส่วนร่วมและผสมผสานกับการทำงานของพนักงานในทุกจุด”
อีกทั้งยังขับเคลื่อนการสร้าง AI-Driven Innovations เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและเพิ่มขีดความสามารถให้กับองค์กร รวมถึงขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำในระดับภูมิภาค ด้วยการนำงานวิจัยด้าน AI มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศ เช่น AI เพื่อการศึกษา AI เพื่อเป็นที่ปรึกษาสำหรับเยาวชน และ AI เพื่อการแพทย์ ตามแนวคิด “KBTG AI For Thailand” ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีและที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป