
การลดลงของพื้นที่ป่าส่งผลให้แหล่งอาหารของช้างป่าลดลง นำไปสู่การออกมาบุกรุกพื้นที่ชุมชนและก่อความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างคนกับช้าง (Human-Elephant Conflict : HEC) ซึ่งเป็นปัญหามายาวนาน
จากข้อมูลของสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระบุว่า จำนวนช้างป่าในประเทศไทยมีประมาณ 4,013-4,422 ตัว กระจายอยู่ใน 16 กลุ่มป่า 94 พื้นที่อนุรักษ์ และมีจำนวนเพิ่มขึ้น แม้พื้นที่ป่าอนุรักษ์จะมีขนาดเท่าเดิมส่งผลให้ช้างออกมาหากินนอกเขตป่า
สถิติ 3 ปีล่าสุด (2564-2566) พบว่า ช้างป่าออกนอกพื้นที่มากกว่า 37,000 ครั้ง สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและพืชผลเกษตรกรรวมกว่า 3,800 ครั้ง และในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา (2555-2567) มีผู้เสียชีวิตถึง 227 ราย บาดเจ็บ 198 ราย จากการบุกรุกของช้างป่า สะท้อนถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับช้างอย่างยั่งยืน
บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ WWF ประเทศไทย นำร่องระบบในพื้นที่รอบเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ปี 2561 โดยนำเทคโนโลยี 5G, 4G และ IOT มาพัฒนาเป็นโซลูชั่นเฝ้าระวังช้างป่ากว่า 400 ตัว ผ่านโครงการเฝ้าระวังช้างป่าด้วยระบบเตือนภัยล่วงหน้า หรือ True Smart Early Warning System (TSEWS)
การทำงานของระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะ TSEWS ประกอบด้วย 1.ติดตั้งกล้อง Camera Trap พร้อมซิม เชื่อมต่อเครือข่ายเพื่อระบุพิกัด และแจ้งเหตุแบบเรียลไทม์ ปัจจุบันมีการใช้งานอยู่ประมาณ 40 ตัว 2.เมื่อกล้องตรวจพบช้างออกนอกบริเวณพื้นที่ป่า ระบบจะส่งภาพช้างพร้อมพิกัดแจ้งเตือนไปยังระบบคลาวด์
3.ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมแจ้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ แบ่งการทำงานใน 5 พื้นที่ มีเจ้าหน้าที่ประจำจุดอยู่ 4 คน 4.เจ้าหน้าที่ดำเนินการผลักดันช้างกลับเข้าป่า และ 5.บางกรณีจะมีการใช้โดรนเข้าตรวจสอบ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการระบุตำแหน่งของช้าง
“วีระ ขุนไชยรักษ์” รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ตลอด 7 ปีของการดำเนินงานระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะ TSEWS สนับสนุนภารกิจของเจ้าหน้าที่หน่วยผลักดันช้างป่าอย่างต่อเนื่อง สถิติล่าสุดปี 2566 แม้พบเหตุการณ์ช้างป่าบุกรุกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ถึง 1,104 ครั้ง แต่เกิดความเสียหายต่อพืชผลเพียง 4 ครั้ง หรือคิดเป็น 0.36% เท่านั้น
“นับเป็นพัฒนาการที่ก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปี 2560 ก่อนการติดตั้งโซลูชั่นที่มีความเสียหายสูงถึง 74.5% สะท้อนให้เห็นว่าระบบแจ้งเตือน TSEWS ช่วยให้เจ้าหน้าที่ผลักดันช้างกลับคืนสู่ป่าและป้องกันความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพเกือบ 100%”
นอกจากนี้ยังเตรียมขยายผลนำระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะ TSEWS ไปยังพื้นที่กลุ่มป่าตะวันออก (ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด) และขยายสู่กลุ่มป่าที่ได้รับผลกระทบช้างป่าบุกรุกทั่วประเทศด้วย
ระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะ TSEWS จึงเป็นหนึ่งในตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนนำไปสู่การสร้างสรรค์โซลูชั่นที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในมิติต่าง ๆ