
สรุปเสวนาเปิดใจ 3 ครีเอเตอร์ดัง taeyii, ฮารุ HRJ HaruJar และนก Bird eye view ในหัวข้อ The Future of Connections เล่าตั้งแต่ความเป็นมาไปจนถึงความท้าทายในฐานะคอนเทนต์ครีเอเตอร์ สายอาชีพที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด พร้อมเผยเทคนิคการทำคอนเทนต์ให้ยั่งยืนและมีความสุข
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา Meta ประเทศไทย จัดงานเปิดตัว Facebook IRL (Facebook in Real Life) อีเวนต์ระดับโลกที่เป็นพื้นที่แห่งการรวมตัวผู้คนและเหล่าครีเอเตอร์ ได้พบปะและทำกิจกรรมร่วมกัน ที่ Quartier Avenue ชั้น G ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์
นอกจากจะมีการเปิดเผยสถิติของคนไทยในการใช้งาน Facebook แล้ว ยังมีงานเสวนา The Future of Connections ที่รวม 3 ครีเอเตอร์ดังของแพลตฟอร์มมานั่งพูดคุยความท้าทายของการทำงาน ได้แก่ ‘เตยยี่ (taeyii)-ประภัสสร กาญจนสูตร’ ศิลปินสร้างงานศิลปะฮีลใจ ที่อยากทำให้ภาษาไทยกลายมาเป็นศิลปะ ‘ฮารุ HRJ HaruJar’ สตรีมเมอร์ที่มีผู้ติดตามกว่า 2.5 ล้านคน ที่มีคอนเทนต์หลากหลาย อาทิ สตรีมเกม การแต่งหน้า และการร้องเพลง ซึ่งสำหรับการสตรีมเกมนับเป็น 1 ในคอมมิวนิตี้ที่ใหญที่สุดของประเทศเลยก็ว่าได้
และ ‘นก-Bird eyes view’ หมอดูไพ่ทาโร่ที่มีผู้ติดตาม 1.3 แสนคน นักพยากรณ์เรื่องความรัก ความศรัทธาที่อยู่คู่กับคนไทยมานานแสนนาน แม้ว่าโลกจะไปไกลมากเท่าไหร่ แต่เราเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หลายคนยังต้องการติดตามครีเอเตอร์สายนี้
โดยเริ่มต้นการพูดคุยจากการแชร์ประสบการณ์ความท้าทายในการครีเอตคอนเทนต์ลงบนแพลตฟอร์มของเหล่าครีเอเตอร์นั้นต้องพบเจอกับความยาก-ง่ายอย่างไรบ้าง เตยยี่เริ่มต้นเล่าว่า งานของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ คืองานที่ต้องครีเอตทุกวัน ทำให้เราต้องเจอจุดที่เรียกว่า Suffer Point คือ จุดที่เราคิดงานไม่ออก วิธีแก้ปัญหาของตนคือการส่องโลกของคนอื่นบ้างทั้งใน Facebook และ Instagram โลกข้างนอกที่มีความชอบของคนอื่นอีกมากมาย ไม่ใช่แค่งานอาร์ตที่ตนชอบ
และสิ่งที่เราได้ดูได้เห็น ก็จะกลายมาเป็นแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในการทำคอนเทนต์ครั้งต่อไปของเรา ซึ่งเรามีหน้าที่ทำอย่างไรก็ได้ให้เราทำงานได้อย่างสม่ำเสมอ ด้วยแนวคิดที่ว่า “สุดท้ายแล้วคนที่ทำงานในทุกวงการ เก่งไม่เท่ากับการมีวินัย” สอดคล้องกับการคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ AI ได้เรียนรู้ ส่งผลกับการเติบโตทางยอดวิว และผู้ติดตาม
ด้านฮารุยอมรับว่า ปัจจุบันวงการเกมเมอร์มีการแข่งขันที่ดุเดือด ทำให้บางครั้งก็มีขึ้น-ลง แต่อย่างไรก็ตามตนก็พยายามครีเอทคอนเทนต์ให้เต็มที่ที่สุด ส่วนการหาแรงบันดาลใจ ก็จะไปดูคอนเทนต์ในกลุ่มแวดวงเดียวกัน หรือคอมเมนต์ของผู้ติดตาม เพื่อมาผลิตคอนเทนต์ที่สดใหม่ และทันเวลา เช่นเดียวกับหมอดูสาวที่เปิดเผยว่า ตนเลือกที่จะถามคนดูว่าสนใจอะไร แล้วนำมาเป็นหัวข้อคอนเทนต์ของตนเอง

ท่ามกลางการเติบโตของครีเอเตอร์หน้าใหม่ในทุกวัน ทำให้การแข่งขันกันบนสายอาชีพนี้ดุเดือดตามไปด้วย เกิดเป็นคำถามว่าเหล่าครีเอเตอร์คิดอย่างไรในการสร้างคอนเทนต์ และสามารถเป็นตัวเองได้มากแค่ไหน เพื่อให้ผู้ติดตามชื่นชอบเรา เตยยี่เล่าว่า การทำคอนเทนต์แรก ๆ นั้น ตน Suffer มาก และไม่รู้เลยว่าผู้ติดตามจะชอบคอนเทนต์ไหนของตน
เป็นเหตุให้สเต็ปที่ 2 คือ ทำตามทุกอย่างที่ผู้ติดตามชอบ แล้วตัวคนสร้างคอนเทนต์เองก็จะหลงทางในที่สุด และกว่าจะรู้ตัว เราก็จะไปโผล่สเต็ปที่ 3 คือ การรู้ตัวตนของตนเองว่า ชอบทำอะไร ประกอบกับการรู้ว่า เราก็ต้องทำคอนเทนต์ที่เราไม่ชอบด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้แต่ละสเต็ปของครีเอเตอร์ทุกคนอาจไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่คล้ายกัน คือ มนุษย์เราต้องทำทั้งสิ่งที่ตัวเองชอบและไม่ชอบด้วย โดยศิลปินสาวยกตัวอย่างถึงคอนเทนต์ที่ตนชื่นชอบมาก แต่ไม่ได้รับผลตอบรับที่ดี ขณะเดียวกันคอนเทนต์ที่ตนไม่ชอบ ผู้ติดตามกลับชอบมาก ได้เป็นข้อสรุปว่า บางทีสิ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จจากคอนเทนต์หนึ่งก็ต้องพึ่งพาจังหวะเวลามาเป็นปัจจัย เป็นคำแนะนำสำหรับครีเอเตอร์ว่า
“อย่าทรมานกับการทำคอนเทนต์มากเกินไปจนตัวตนที่แท้จริงของเราหายไป”
คล้ายกับฮารุที่กล่าวว่า ตนเน้นทำคอนเทนต์ตามใจผู้ติดตาม แม้จะไม่ได้ชอบทำก็ตาม แต่ก็ต้องสนุกกับทุกสิ่งที่ทำ เพราะจะทำมันได้นาน ขณะที่นกบอกว่า ตนพยายามแทรกความเป็นตัวเองเข้าไปในทุกคอนเทนต์ เนื่องจากตนทราบอยู่แล้วว่าคอนเทนต์แบบไหนที่คนจะชอบหรือไม่ แต่เนื่องจากไม่อยากให้ตัวเองจดจ่ออยู่กับ engagement มากจนเกินไป เลยต้องทำทุกสิ่งที่ตัวเองมีความสุข
ก่อนจะปิดท้ายด้วยคำถามถึงการเชื่อมต่อกับผู้ติดตามผ่านแพลตฟอร์มที่ใช้งานอย่าง Facebook และ Instagram อย่างไร โดยเตยยี่ให้ความหมาย connect ว่า เป็นการเชื่อมต่อเสียงที่อยู่ในใจของเรากับจิตวิญญาณของคนอื่นผ่านคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย เป็นโอกาสในการลองทำอะไรใหม่ ๆ

ด้านฮารุให้ความหมายว่า เป็นการเชื่อมต่อความจริงจังกับผู้ติดตาม การสื่อสารกัน และการรับฟังความเห็น-ความต้องการ โดยมีเฟซบุ๊กเป็นตัวช่วย อาทิ ฟีเจอร์ไลฟ์สด และช่องแชตบอตแคสต์ ที่ช่วยเชื่อมต่อเสมือนเป็นเพื่อนกัน
และสุดท้าย นกกล่าวว่า การเชื่อมต่อนี้การคือใส่ใจผู้ติดตามของเรา โดยเฉพาะการใช้ Massager ที่เป็นช่องทางการเข้าถึงคนที่ติดตามเราได้มากขึ้น ทำให้เราได้สื่อสารกันทั้งพับลิก และไพรเวต ทำให้การเชื่อมต่อโลกของเหล่าครีเอเตอร์และผู้ติดตามนั้นง่าย สะดวกสบาย และเกิดขึ้นได้จริง