ศาลอุทธรณ์ของสหรัฐตัดสินเมื่อวันศุกร์ 6 ธันวาคม 2024 ที่ผ่านมา ว่าให้ยึดตามกฎหมายที่กำหนดให้บริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) ของจีนต้องขายกิจการแพลตฟอร์ม TikTok ภายในต้นปี 2025 มิฉะนั้นจะถูกแบน แม้มีผู้ใช้งานชาวอเมริกันกว่า 170 ล้านคน
เมื่อวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา BBC รายงานว่า ศาลอุทธรณ์ของสหรัฐตัดสินให้บริษัท ByteDance ของจีนขายกิจการแพลตฟอร์ม TikTok ภายในต้นปี 2025 มิฉะนั้นจะถูกแบน โดยกฎหมายนี้มีสาเหตุมาจากความกังวลด้านความมั่นคงของชาติที่บริษัทแม่อย่างไบต์แดนซ์อาจถูกรัฐบาลจีนใช้ TikTok สอดแนมผู้ใช้ชาวอเมริกัน หรือเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อ
แต่ศาลกลับยืนหยัดต่อกฎหมายดังกล่าว และยอมรับว่า “ได้ร่างกฎหมายขึ้นมาอย่างรอบคอบ เพื่อจัดการกับการควบคุมจากฝ่ายตรงข้ามที่มาจากต่างประเทศเท่านั้น และเป็นส่วนหนึ่งในการพยายามต่อต้านภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติที่ได้รับการยืนยันอย่างดีจากสาธารณรัฐประชาชนจีน”
ด้าน TikTok กล่าวว่า การต่อสู้ทางกฎหมายยังไม่สิ้นสุด และเลือกที่จะสู้คดีต่อในศาลฎีกาของสหรัฐ ซึ่งเป็นศาลที่มีอำนาจสูงสุดด้านกฎหมายของประเทศ โฆษกกล่าวในแถลงการณ์ว่า “ศาลฎีกาก่อตั้งขึ้นเพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพในการพูดของชาวอเมริกัน และเราหวังว่าศาลจะตัดสินเช่นนั้นในประเด็นรัฐธรรมนูญที่สำคัญนี้”
ก่อนจะกล่าวถึงกฎหมายนี้เพิ่มเติมว่า “ข้อมูลไม่แม่นยำ, พบข้อบกพร่อง และเป็นเพียงสมมติฐาน” และการแบนนี้คือการปิดการมองเห็นของพลเมืองสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ชัยชนะจากการเลือกตั้งสหรัฐที่เพิ่งได้มาของทรัมป์ อาจกลายมาเป็นหนทางรอดของแพลตฟอร์มนี้ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะพยายามแบน TikTok เมื่อปี 2020 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่หากย้อนกลับไปในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะไม่อนุญาตให้มีการแบน TikTok อีกต่อไป
ทั้งนี้ ผู้พิพากษาได้พิจารณาคดีที่ TikTok และผู้ใช้งานยื่นฟ้องกฎหมายนี้ซึ่งกำหนดให้ไบต์แดนซ์ต้องขายหรือแยกกิจการในสหรัฐภายในวันที่ 19 มกราคม 2025 เว้นแต่ศาลสูงสุดจะกลับคำ หากโจ ไบเดน อนุญาตให้ขยายเส้นตายออกไปอีก 90 วัน และหลังจากนั้นก็จะขึ้นอยู่กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2025