SIAM.AI ไม่หวั่นศึกคลาวด์ ผนึก NVIDIA จุดพลุ SiamGPT

SIAM.AI
รัตนพล วงศ์นภาจันทร์

“สยาม เอไอ คอร์เปอเรชั่น” ผู้ให้บริการ SIAM.AI Cloud กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติไทยที่สปอตไลต์สาดส่องมาตั้งแต่ปลายปี 2567 ไม่ว่าจะด้วยภูมิหลังครอบครัวซีอีโอ “รัตนพล วงศ์นภาจันทร์” ในฐานะบุตรชาย “เยาวเรศ ชินวัตร” น้องสาว อดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร”

และการพา “เจนเซ่น หวง” (Jensen Huang) ซีอีโอ “เอ็นวิเดีย” (NVIDIA) ยักษ์ผู้ผลิตชิป AI ที่กำลังโด่งดัง ที่ปัจจุบันบริษัทมีมาร์เก็ตแคปสูงถึง 3.37 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ณ 20 ม.ค. 2568) มาเป็นแขกรับเชิญพิเศษในงาน AI Vision for Thailand (วันที่ 4 ธ.ค. 2567) และร่วมเสวนาเกี่ยวกับการรักษาอำนาจอธิปไตยของข้อมูล (Sovereign AI)

ไม่ใช่เท่านั้น สยาม เอไอ คอร์เปอเรชั่น ยังเป็น NVIDIA Cloud Partner (NCP) รายแรกในประเทศไทย ที่จะได้ใช้ประโยชน์จากหน่วยประมวลผลของ “เอ็นวิเดีย” ในการยกระดับการให้บริการ Cloud Computing สนับสนุนการประกอบธุรกิจ และการพัฒนานวัตกรรมของลูกค้าองค์กรในไทยอย่างเต็มที่

ธ.ค.ปีที่แล้ว SIAM.AI Cloud ยังมีการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับ True IDC และ Gulf Edge เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบนิเวศ AI ของประเทศไทยด้วย

รู้จัก SIAM.AI Cloud

“รัตนพล” เล่าว่า SIAM.AI Cloud มีธุรกิจหลัก ให้บริการ AI Cloud สำหรับลูกค้าองค์กรที่ต้องใช้เวิร์กโหลดในการประมวลผล คิดเป็นสัดส่วนรายได้ของบริษัทกว่า 95% อีกกลุ่มธุรกิจที่เริ่มขยับขยายมากขึ้น คือการร่วมมือกับทีมผู้เชี่ยวชาญ (Local SI) สร้าง Use Case และพัฒนาเป็นโมเดลที่ช่วยให้องค์กรใช้บริการคลาวด์ และ AI ได้สะดวกขึ้น

“ตอนนี้ยังเป็นการให้บริการคลาวด์เฉพาะของเราเอง สำหรับโมเดลแบบมัลติคลาวด์ ที่มีการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการรายอื่น ๆ กำลังอยู่ในช่วงของการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ปัจจุบันค่าบริการคิดจากจำนวนการ์ด และชั่วโมงที่ใช้งาน สมมุติ 1 เครื่อง มี 8 การ์ด การ์ดละ 2 เหรียญ ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ค่าบริการ 1 เดือนเป็น 2x8x24x30 = 11,520 เหรียญ ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะเซ็นสัญญาระยะยาว 3-4 ปี

ADVERTISMENT

สำหรับข้อได้เปรียบระหว่างการใช้คลาวด์ของ SIAM.AI Cloud กับการที่องค์กรตัดสินใจใช้ Private Cloud ของตนเอง “รัตนพล” มองว่า การที่องค์กรหรือหน่วยงานภาครัฐจะทำการสั่งซื้อหน่วยประมวลผลจาก NVIDIA โดยตรงต้องใช้เวลานานมาก ตั้งแต่การของบประมาณ การตรวจสอบข้อกำหนดต่าง ๆ และปริมาณเวิร์กโหลดที่เหมาะสม ไปจนถึงการรอสินค้าที่ต้องใช้เวลาหลายเดือน

เช่น เดือนนี้ B200 ออก เดือนหน้า GB200 ออก เดือน ก.ค. มี GB300 ออกมา ถ้าใช้บริการคลาวด์ของบริษัทก็จะไม่ต้องกังวลเรื่องการอัพเกรดอุปกรณ์ หรือการพ่วงระบบของหลาย ๆ ยูนิตเข้าด้วยกัน

ADVERTISMENT

รายแรกในอาเซียน

“ประชาชาติธุรกิจ” สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท สยาม เอไอ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผ่าน “Creden Data” แพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลการจดทะเบียนของบริษัทในประเทศไทย พบว่า บริษัทจดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2567 มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการ การใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ร่วมกันผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 695 ล้านบาท

เมื่อมาดูที่ฝั่งผู้ถือหุ้นของสยาม เอไอ คอร์เปอเรชั่น พบว่า มีบริษัท โอบีโอเอ็น คอร์เปอเรชั่น จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วนกว่า 99.86% ซึ่งบริษัทดังกล่าวมี “รัตนพล” และบิดา “วีระชัย วงศ์นภาจันทร์” เป็นกรรมการ

“รัตนพล” กล่าวต่อว่า SIAM.AI Cloud ทำงานกับ NVIDIA อย่างใกล้ชิดมาสักระยะ ทางนั้นเห็นถึงความตั้งใจในการพัฒนา AI ของไทย รวมถึงมีแผนการยกระดับกลุ่มสตาร์ตอัพ และการศึกษาอย่างชัดเจน ทำให้แนวโน้มการสร้างร่วมมือดีขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุดบริษัทได้รับสิทธิการส่งมอบ “NVIDIA DGX Blackwell B200” หน่วยประมวลผลระดับสูงรุ่นล่าสุด เป็นบริษัทแรกในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่บริษัทใหญ่ ๆ ในสหรัฐได้ไปก่อน ทั้ง OpenAI, Microsoft และ Amazon Web Services (AWS)

สำหรับ NVIDIA DGX B200 ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell GPU จำนวน 8 การ์ด เชื่อมต่อด้วย NVIDIA NVLink (Gen5) ในแง่ของประสิทธิภาพด้าน Training เพิ่มได้ 3 เท่า เมื่อเทียบกับ NVIDIA DGX H100 ด้าน Inferencing ประสิทธิภาพสูงขึ้น 15 เท่า และด้วยความสามารถในการประมวลผลที่มากขึ้น ทำให้ต้องใช้พลังงานมากขึ้นประมาณ 6 เท่า

“เฟสแรก เราสั่ง B200 มา 9 เครื่อง เพื่อนำมาใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของเราเอง และพัฒนา SiamGPT โมเดล Generative AI ภาษาไทย ที่เริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้นในปีนี้”

จุดพลุ SiamGPT

“รัตนพล” ยังพูดถึงความตั้งใจในการพัฒนา “SiamGPT” ว่า SiamGPT เป็นโมเดล AI ลักษณะเดียวกับ ChatGPT ที่เทรนจากข้อมูลภาษาไทยโดยเฉพาะ และพัฒนาจากโมเดล OpenThaiGPT โดยในอนาคตตั้งเป้าที่จะเพิ่มความสามารถให้เป็นมากกว่าแชตบอตถาม-ตอบ แต่ยังสร้างวิดีโอจากข้อความที่พิมพ์เข้าได้เช่นเดียวกับ Sora ของ OpenAI เพราะจะเป็นที่ต้องการของตลาดในอนาคต เช่น ในจีนที่ภาพยนตร์ หรือซีรีส์จาก AI มีชื่อเสียงมาก ๆ

“ปัจจุบัน SiamGPT ให้คนเข้ามาลองใช้ฟรี และยังอยู่ในช่วงที่กำลังทำงานกับมหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล (CMKL University) ที่ตั้งอยู่ในสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มีเป้าหมายที่จะปล่อยเป็น Open Source ให้คนเอาไปพัฒนาต่อด้วย”

ด้าน “กอบกฤตย์ วิริยะยุทธกร” นายกสมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย หนึ่งในผู้พัฒนาโมเดล OpenThaiGPT เสริมว่า การใช้เวิร์กโหลดบนคลาวด์ของ SIAM.AI ที่มาแบบ “กึ่งสำเร็จรูป” ให้เช่าใช้ทั้งเครื่อง ทำให้นักวิจัยปรับแต่งโปรแกรมและการทำงานได้ตามที่ต้องการมากกว่าการใช้คลาวด์ของผู้ให้บริการรายอื่นที่มี ความสำเร็จรูปมาแล้ว

“เครื่องของ SIAM.AI เป็นเครื่องรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ทำให้ใช้เวลาในการพัฒนาโมเดลน้อยลงกว่าเดิมหลายเท่า เช่น โมเดล OpenThaiGPT 1.0 จากที่ใช้เวลาเทรนประมาณ 2 เดือน ก็เหลือแค่ 5 วัน”

ยกระดับโครงสร้างดิจิทัล

เมื่อถามถึงแผนการลงทุนในปี 2568 “รัตนพล” บอกว่า ปีนี้จะยกระดับคลัสเตอร์ของโครงสร้างพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนอย่างน้อย 1 หมื่นล้านบาท พร้อมทั้งพัฒนาบริการเพื่อแก้เพนพอยต์ต่าง ๆ เช่น ภัยไซเบอร์ หรือการประมวลผลที่ต้องใช้เวิร์กโหลดสูง ๆ ทำให้องค์กรสร้างการเติบโตได้มากขึ้น

“ส่วนการลงทุน AI Hub มองว่า ประเทศไทยมีความพร้อมมาก ๆ อยู่แล้วโดยเฉพาะเรื่องน้ำ และไฟ ซึ่งไทยสามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงกว่าที่ต้องใช้จริง ประมาณ 42% เพียงแต่เมื่อตลาด AI เติบโต ก็อาจมีบางองค์กรที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยีเหล่านั้น เราคงมีการขยายบริการ และสร้างความร่วมมือกับผู้ให้บริการต่างชาติ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่องค์กรต่าง ๆ จะเข้าถึงได้มากขึ้น”