
Grab เผย 3 ปี “Grab EV” คนขับใช้รถ EV ทั่วประเทศแล้ว 1 หมื่นคัน พร้อมจับมือพันธมิตรใหม่ 5 ราย เพิ่มทางเลือกเช่า-ซื้อ ชูโปรแกรม “ผ่อนขับรับรถ” ขับ BYD Seal จ่ายเริ่มต้น 1,010 บาทต่อวัน
นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย (Grab) กล่าวว่า โครงการ Grab EV ได้เข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว หลังจากที่แกร็บได้ประกาศเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนคนขับแกร็บที่ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้มากขึ้น เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากก๊าซเรือนกระจก
ปัจจุบันแกร็บมีคนขับที่ให้บริการเรียกรถผ่านแอป และดีลิเวอรี่โดยใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าครอบคลุมทั่วประเทศมากกว่า 10,000 คัน โดยเฉพาะ 10 จังหวัดหลัก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ โคราช ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี สงขลา อุดรธานี และอุบลราชธานี
“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้จำนวนคนขับที่ใช้รถ EV เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คือการมีเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งและมีความเชี่ยวชาญจากหลายภาคส่วนมาช่วยสนับสนุน โดยร่วมกันพัฒนาโปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงยานยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มคนขับแกร็บ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้า ผู้ให้บริการเช่ายานยนต์ไฟฟ้า ผู้ให้บริการทางการเงิน รวมถึงสถานีชาร์จไฟฟ้า”
นายวรฉัตรกล่าวต่อว่า แกร็บได้จับมือกับ 5 พันธมิตรใหม่ เพื่อขับเคลื่อนโครงการ Grab EV ต่อเนื่อง ได้แก่ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) (SUSCO), บริษัท ไบโอ แลป ซัพพลาย จำกัด (Whale EV), บริษัท เอจีอี อีวี พลัส จำกัด (บริษัทในเครือของ AGE Group ภายใต้ชื่อ AGEWAY), บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) และ บริษัท สปาร์ค อีวี จำกัด (Spark EV) ซึ่งจะช่วยเพิ่มทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนขับยิ่งขึ้น
ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรรายต่าง ๆ แกร็บได้พัฒนาโปรแกรม และสิทธิประโยชน์สำหรับคนขับแกร็บ ดังนี้
1.โปรแกรม “ผ่อนขับรับรถ”
แกร็บร่วมมือกับ SUSCO ผู้ให้บริการสินเชื่อยานยนต์ไฟฟ้า เปิดโอกาสให้คนขับแกร็บสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าได้ โดยพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจากประวัติในการให้บริการกับแกร็บ รวมถึงคนขับยังสามารถเช่าซื้อรถยนต์ไฟฟ้า BYD Seal รุ่น Dynamic รุ่น Premium และ รุ่น AWD Performance ด้วยการผ่อนจ่ายรายวันเริ่มต้นที่ 1,010 บาท โดยหักรายได้จากการให้บริการในแต่ละวัน ในระยะสัญญา 5 ปี และไม่ต้องวางเงินดาวน์
พร้อมรับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เช่น การรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กม. ฟรีค่าซ่อมบำรุงรักษาตามรอบ ฟรีประกันรถสาธารณะชั้น 1 รวมถึงการให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากผู้ให้บริการตลอดอายุสัญญา
2.โปรแกรม “เช่าครบจบบนแอป”
แกร็บจับมือกับ 2 พันธมิตรผู้ให้บริการเช่าแท็กซี่ไฟฟ้า ได้แก่ Whale EV และ AGEWAY เปิดให้บริการเช่ารถแท็กซี่ไฟฟ้าเพื่อให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชั่น Grab โดยได้มีการนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Aion ES เข้ามาเป็นตัวเลือกเพิ่มเติม จากเดิมที่มีเพียงรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น MG EP ให้บริการ
โดยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Aion ES ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนขับแท็กซี่ หลังจากที่ได้ทดลองปล่อยเช่าตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา มีคนขับใช้รถรุ่นนี้ให้บริการแล้วกว่า 400 คัน
3.สิทธิประโยชน์พิเศษจากสถานีชาร์จไฟฟ้า
แกร็บยังขยายความร่วมมือกับ 2 พันธมิตรผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า ได้แก่ SHARGE และ Spark EV เพื่อเสริมความมั่นใจให้คนขับแกร็บในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จไฟฟ้าที่มีมากกว่า 600 แห่งทั่วประเทศ
โดยมอบสิทธิประโยชน์พิเศษให้กับคนขับแกร็บเป็นพิเศษ เช่น อัตราค่าไฟพิเศษเพียง 5.84 บาทต่อหน่วย (จากราคาปกติ 7.5–9.5 บาทต่อหน่วย) สำหรับการชาร์จไฟฟ้าที่สถานีชาร์จของ ReverSharger และบัตรกำนัลมูลค่า 1,000 บาท จำนวน 1,000 รางวัล ให้กับคนขับแกร็บสำหรับการชาร์จไฟฟ้าที่สถานีชาร์จของ Spark EV ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2567
“การส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าถือเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญที่แกร็บมุ่งลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากวงจรธุรกิจ โดยแกร็บยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับข้อดีของการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทั้งกับคนขับและผู้ใช้บริการควบคู่กัน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สะท้อนผ่านจำนวนของคนขับที่หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และจำนวนผู้ใช้บริการที่เปิดฟีเจอร์เลือกใช้รถอีวี (Grab EV Rides) เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า”