
ศาลให้ประกันตัว ‘พิรงรอง’ แต่ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ หลังสั่งจำคุก 2 ปี คดีทรูฟ้องมาตรา 157
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 เมื่อเวลา 09.30 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน นัดฟังคำพิพากษา ในคดีระหว่างฝ่ายโจทก์คือ บริษัท ทรูดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด และจำเลยคือ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ จากการออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทรูไอดี หลังจากมีผู้ร้องเรียนต่อคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ ที่ศาสตราจารย์พิรงรองเป็นประธาน
โดยสำนักงาน กสทช.ออกหนังสือเตือนผู้ประกอบการโทรทัศน์ ทีวีดิจิทัล ให้ทำตามกฎ Must Carry อย่างเคร่งครัด หากมีรายการไปออกอากาศผ่านโครงข่าย หรือแพลตฟอร์มใดจะมีโฆษณาแทรกไม่ได้
ซึ่งในหนังสือเตือนไม่ได้ส่งตรงไปที่บริษัท ทรู ดิจิทัล โดยตรง แต่ทรูอ้างว่าทำให้ตัวเองเสียหาย จึงฟ้องศาลว่า ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ โดยทรูยังขอให้ศาลสั่งศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง ยุติปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลจะตัดสินคดี แต่ศาลยกคำร้อง
ทั้งนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน อ่านคำพิพากษา ระบุว่า ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า แทนที่จำเลยจะทำหน้าที่วินิจฉัย จะทำหน้าที่ของตัวเอง แต่กลับมีพฤติการณ์กลั่นแกล้งโจทก์ ทำให้ได้รับความเสียหาย ข้อต่อสู้ของจำเลยขัดแย้งกับพฤติการณ์ ฟังด้วยว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ลงโทษจำคุก 2 ปี
ในระหว่างที่ศาลอ่านคำพิพากษา ดร.พิรงรองได้ยืนฟังคำพิพากษา และมีใบหน้าเคร่งเครียด พร้อมกับก้มจดรายละเอียดคำพิพากษาบ่อยครั้ง
อย่างไรก็ดี ภายหลังศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี ดร.พิรงรองได้ยื่นหลักทรัพย์ เพื่อขอประกันตัว ต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ต่อไป
โดยก่อนหน้านี้ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษา พร้อมระบุว่าทำใจไว้บ้าง แต่น้อมรับคำพิพากษา ยันทำตามหน้าที่โดยสุจริต
ขณะที่รายงานข่าวจากสภาองค์กรของผู้บริโภค ระบุว่ามี กสทช.บางคนเจรจา ให้ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง ลาออกแล้วจะถอนฟ้องทุกคดี
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.27 น. ศาลอนุญาตให้ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง ประกันตัวได้ โดยมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ทำให้ไม่มีผลกระทบต่อตำแหน่ง กสทช.