
“บัซซี่บีส์” อวดผลงานปี 2567 ช่วยแบรนด์สร้างยอดขายบนอีคอมเมิร์ซกว่า 2,000 ล้านบาท โต 120% จากปี 2565 ฝั่ง “TikTok” มาแรง ยอดขายโต 530% เดินหน้าปี 2568 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน E-Commerce Enabler Service
นางสาวณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด (BUZZEBEES) ผู้ให้บริการโซลูชั่นเกี่ยวกับ Loyalty & Digital Engagement Platform เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทให้บริการครอบคลุมใน 5 ธุรกิจหลัก ได้แก่
- ธุรกิจพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (Loyalty & Marketing Platform)
- ธุรกิจจัดหาของรางวัลและสิทธิพิเศษ (Rewards & Privileges Management)
- ธุรกิจบริการอีคอมเมิร์ซอย่างครบวงจร (E-Commerce Enabler Service)
- ธุรกิจบริการระบบจัดการร้านค้าและการรับชำระเงิน (Retail & Restaurant Solutions)
- ธุรกิจบริการด้านการตลาดดิจิทัลและอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer & Affiliate Marketing)
ทุกบริการครอบคลุมใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และกัมพูชา โดยดูแลแพลตฟอร์มพันธมิตรกว่า 1,200 แพลตฟอร์ม และมีผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มกว่า 170 ล้านบัญชี
สำหรับบริการ “E-Commerce Enabler” ให้บริการแบบ End-to-End ตั้งแต่การสร้างหน้าร้านบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Shopee, Lazada, Brand.com, Line Shopping, Nocnoc และ TikTok บริการด้านกราฟิกดีไซน์ การจัดแคมเปญสร้างยอดขาย การไลฟ์ขายสินค้า การบริการหลังการขาย การแพ็กสินค้า การยิงโฆษณา การดูแลด้าน Influencer และ KOLs ไปจนถึงการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้า ช่วยให้แบรนด์และร้านค้าสามารถพลิกฟื้นและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
“ในปี 2567 สามารถยอดขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสูงกว่า 2,000 ล้านบาท เติบโต 120% นับตั้งแต่ปี 2565 ที่เริ่มให้บริการ สะท้อนถึงวิสัยทัศน์และการปรับตัวอย่างรวดเร็วของ BUZZEBEES ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดอีคอมเมิร์ซไทย และมุ่งมั่นที่จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ”
นางสาวณัฐธิดา กล่าวต่อว่า สิ่งที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ คือการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ TikTok ที่ BUZZEBEES ได้ขยายฐานการให้บริการจัดการร้านค้าไปเมื่อกลางปี 2566 เนื่องจากสร้างยอดขายให้กับแบรนด์ลูกค้าได้ถึง 500 ล้านบาทในปี 2567 คิดเป็นการเติบโตแบบปีต่อปีถึง 530%
สอดคล้องกับข้อมูลจากงาน DAAT DAY Advolution ที่ระบุว่า ปี 2567 ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยมีมูลค่าสูงถึง 1.1 ล้านล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อนหน้าถึง 14% และคาดการณ์ว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดไปแตะ 1.6 ล้านล้านบาทภายในปี 2570 สะท้อนว่าTikTok กลายเป็นช่องทางขายสินค้าออนไลน์มาแรงแห่งยุค
“TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่มาแรงมากในปีที่ผ่านมา โดยเราเข้าไปช่วยลูกค้าสร้างยอดขายบนแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาน่าประทับใจมาก และนอกจาก TikTok ยอดขายบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย Shopee เติบโต 116% และ Lazada เติบโต 30%”
นางสาวณัฐธิดา กล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน BUZZEBEES มีพันธมิตรแบรนด์และร้านค้าที่ให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นในศักยภาพของทีมงานมากกว่า 50 แบรนด์ เช่น Nestle, Toyota, Singha, Pepsico, Coca-Cola, Danone, Reckitt และ Enfa, Kanebo, กลุ่มมุ่งพัฒนา, กลุ่มสยามพิวรรธน์, เครือสหพัฒน์ และกลุ่มไอ.พี.วัน เป็นต้น
ที่ผ่านมา BUZZEBEES สามารถสร้างรายได้ให้กับลูกค้าสูงเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้เฉลี่ยสูงกว่า 100% จนเกิดการบอกต่อและได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์อื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น
และในปี 2568 BUZZEBEES ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและปรับกลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายทีมงานเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในอนาคต โดยมีแบรนด์ใหญ่ ๆ หลายแบรนด์ที่ให้ความสนใจร่วมงานกับ BUZZEBEES มากขึ้น เช่น น้ำผลไม้ Tipco, น้ำแร่ Aura, เครื่องใช้ไฟฟ้า Sharp, Jack & Jill และแบรนด์อื่น ๆ
“ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาและปรับปรุงบริการอย่างไม่หยุดนิ่ง ทำให้ BUZZEBEES ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้าน E-Commerce Enabler Service ที่พร้อมจะสนับสนุนและผลักดันให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล”