
มหกรรมสินค้าไอที “คอมมาร์ต” ครั้งแรกของปีนี้ เตรียมคัมแบ็ก 6-9 มี.ค. 2568 หวังผู้บริโภคจับจ่ายคึกคัก หลังของใหม่เปิดตัว-ตลาด PC เริ่มฟื้น-ความต้องการ AI PC เพิ่มขึ้น ตั้งเป้าสร้างเงินสะพัด 3.3 พันล้านบาท
นายบุญเลิศ นราไท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เออาร์ไอพี (ARIP) กล่าวว่า แนวโน้มตลาด PC เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2567 ถือเป็นสัญญาณว่าตลาดเริ่มฟื้นตัว และจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในปี 2568 จากความต้องการ PC ที่มากขึ้น รวมถึงมูลค่าทางธุรกิจของ AI PC ยังคงเติบโต บวกกับมีตัวเลือกสินค้าที่หลากหลาย
นอกจากนี้ ช่วงต้นปี 2568 ยังมีสินค้าใหม่ ๆ เปิดตัวเป็นจำนวนมาก จึงช่วยกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนคอมหรือโน้ตบุ๊กใหม่มากขึ้น เช่น โน้ตบุ๊กที่มีให้เลือกทั้งชิป AI และ ARM เป็นโน้ตบุ๊กติดชิป AI มาพร้อมซีพียู Intel Core Ultra กับ AMD Ryzen AI หรือมาพร้อมการ์ดจอ Intel Arc กับ RTX 40 Series ขึ้นไป ส่วนชิป ARM เป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพสูงแต่ประหยัดพลังงาน
ด้านการ์ดจอได้เข้าสู่ยุค AI เต็มตัว เช่น RTX 50 Series ได้ AI ช่วยดันความแรงจนเกือบเทียบเท่าการ์ดจอระดับท็อปรุ่นก่อน แต่ราคาถูกลงมาก ทำให้กลายเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูง ส่วนฝั่งของ CPU ตัวใหม่ ๆ ออกแบบมาให้เล่นเกมโดยเฉพาะ เช่น เทคโนโลยี 3D V-Cache หรือ X3D ที่ได้รับการยอมรับจากเกมเมอร์ทั่วโลก หรือฝั่งของ AMD ก็เพิ่งเปิดตัวชิปรุ่นใหม่ที่เป็น X3D ในงาน CES 2568 ที่ผ่านมา แต่รุ่นเก่าก็ยังขายดี
ส่วนฝั่งของเคสไซซ์มินิ หรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่ถูกย่อส่วนให้มีขนาดเล็กลง หรือเรียกว่า Mini ITX กำลังได้รับความนิยมในกลุ่ม Content Creator ข้อดีคืออัพสเป็กได้ง่ายกว่าโน้ตบุ๊ก ราคาต่อสเป็กถูกกว่า แถมได้ประสิทธิภาพดีกว่าเดิม และจอภาพที่มีเทคโนโลยีสูงขึ้น แต่ราคาถูกลง High Refresh Rate / 4K / Ultrawide มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมู่เกมเมอร์และครีเอเตอร์ และจอระดับ 240-360Hz ในราคาเอื้อมถึงมากขึ้น ช่วยดึงดูดคนเล่นเกมและอีสปอร์ต
ส่วนจอโค้ง (Curved) และ Mini-LED/QD-OLED ก็เริ่มคุ้มค่าในตลาดกว้าง และปัจจัยเสริม เช่น อุปกรณ์ต่อพ่วงอย่าง RAM และ VRAM ในการ์ดจอมากับความจุที่มากกว่าเดิมเพื่อการใช้งาน AI ที่ลื่นไหล รวมถึง SSD รองรับการถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วขึ้น และเกม PC ออกใหม่ปี 2568 ต้องการสเป็กคอมแรง รองรับ 4K ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ DIY Computer เติบโตในปีนี้
“ช่วงต้นปีเป็นช่วงเวลาของการตัดสินใจเปลี่ยนคอมรุ่นใหม่ หรืออัพเกรดคอมเก่า เพื่อรองรับการใช้งานที่มากขึ้น รวมถึงกระแสความนิยม Personal Customization ที่โชว์ความเป็นตัวตนของผู้ใช้ ปรับแต่ง DIY ได้ตามต้องการ จึงเชื่อว่าจะทำให้งานคอมมาร์ตครั้งแรกปี 2568 ได้รับความสนใจจากคนที่กำลังมองหาของใหม่”
นายบุญเลิศกล่าวต่อว่า สำหรับงานคอมมาร์ตรอบต้นปี 2568 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 6-9 มีนาคม 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา มาในคอนเซ็ปต์ “COMMART UNLOCK” ปลดล็อกขีดจำกัดในการซื้อสินค้าไอที ช่วยให้ผู้บริโภคปรับแต่งสเป็กคอมได้ดียิ่งขึ้น มาพร้อมโปรโมชั่น ส่วนลดจากร้านค้าพันธมิตร และสิทธิลุ้นรับรางวัลต่าง ๆ เช่น คอมมาร์ต Big Bonus ช็อปครบทุก 3,000 ได้ลุ้นโชค 2 ต่อ เป็นต้น
“การจัดงานครั้งสุดท้ายของปี 2567 สร้างเงินสะพัดได้ประมาณ 3,400 ล้านบาท จากเป้าที่วางไว้ 3,300 ล้านบาท ส่วนการจัดงานครั้งแรกของปี 2568 ตั้งเป้าไว้ที่เท่าเดิม เพราะมองตามความเป็นจริงของสภาพเศรษฐกิจ และคิดว่ามู้ดการจับจ่ายของคนน่าจะไม่ต่างจากเดิมมาก”
ซีอีโอ ARIP บอกด้วยว่า ที่ผ่านมาการจัดงานคอมมาร์ตครั้งแรกของปี จะไม่ทันกับช่วงที่มีมาตรการลดหย่อนภาษีอยู่แล้ว เพราะว่าต้องรอของใหม่ที่จะเปิดตัวในงาน CES ช่วงต้นเดือนมกราคม รวมถึงยังทำให้ไทม์ไลน์การจัดงานกระชั้นชิดเกินไปด้วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดสรรงบประมาณด้านการตลาดและการออกบูทของร้านค้าพาร์ตเนอร์
“แม้ว่ามาตรการลดหย่อนภาษีจะมีนัยสำคัญกับยอดขาย และการกระตุ้นกำลังซื้อ แต่เมื่อพิจารณาจากหลายปัจจัย การจัดงานช่วงเดือนมีนาคมจึงมีความเหมาะสมแล้ว”