
TRUE เปิดผลประกอบการปี 2567 โกยรายได้รวม 2.06 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.8% เป็นกำไรสุทธิ (ภายหลังการปรับปรุง) 9.9 พันล้านบาท ส่วนจำนวนผู้ใช้มือถือ ณ ไตรมาส 4/2567 อยู่ที่ 49.4 ล้านเลขหมาย ลดลง 1.3 แสนเลขหมาย หลังร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย-ป้องกันความเสี่ยงจากการฉ้อโกง
รายงานข่าวจาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 4/2567 บริษัทมีรายได้รวม 5.27 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 0.8% เป็นรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) อยู่ที่ 4.16 หมื่นล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.3% มี EBITDA 2.52 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นกำไรสุทธิ (ภายหลังการปรับปรุง) 3.6 พันล้านบาท
ส่วนปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 2.06 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.6% เป็นรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) อยู่ที่ 1.65 แสนล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.6% มี EBITDA 9.81 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นกำไรสุทธิ (ภายหลังการปรับปรุง) 9.9 พันล้านบาท
นอกจากนี้ ในไตรมาส 4/2567 จำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่กลับมาเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยเพิ่มขึ้น 116,000 เลขหมาย หรือ 0.2% จากไตรมาสที่ผ่านมา มีจำนวน 49.4 ล้านเลขหมาย ซึ่งเป็นตัวเลขภายหลังจากการลดลงของผู้ใช้บริการ 133,000 เลขหมาย จากความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการฉ้อโกง
ผู้ใช้บริการระบบรายเดือนคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ 15.2 ล้านเลขหมาย ในขณะที่ผู้ใช้บริการระบบเติมเงินมีจำนวน 34.2 ล้านเลขหมาย ส่วนผู้ใช้บริการออนไลน์เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อยู่ที่ 3.7 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส 4 ปี 2567 ผู้ใช้บริการ 5G มีจำนวน 13.8 ล้านเลขหมาย
ทั้งนี้ รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการต่อเดือน (ARPU) ของระบบเติมเงินอยู่ที่ 121 บาท, ระบบรายเดือน 426 บาท และบริการออนไลน์ 522 บาท
นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ปี 2567 เป็นปีที่มีความท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สามารถสร้างกำไรได้อย่างต่อเนื่อง และ EBITDA เติบโตเป็นไตรมาสที่ 8 ติดต่อกัน ซึ่งความสำเร็จมาจากการขับเคลื่อนด้วยปัจจัยสำคัญ 3 ประการ คือ
1.การเร่งดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย โดยปรับปรุงเครือข่ายแล้วเสร็จมากกว่า 77% ซึ่งเร็วกว่าแผนงาน และเมื่อบรรลุเป้าหมาย 100% กลางปี 2568 ที่จะถึงนี้ จะทำให้ลูกค้าทรูมูฟ เอช และดีแทคได้สัมผัสประสิทธิภาพการใช้งานที่ดียิ่งขึ้นอย่างชัดเจน
2.การเสริมความแข็งแกร่งด้วยพันธมิตรระดับโลกเพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี และ 3.การนำประโยชน์จาก AI มาเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายและขับเคลื่อนนวัตกรรมดิจิทัล
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน การมุ่งเน้นผลการดำเนินงานและวินัยทางการเงิน ตลอดจนการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม (Synergy) ทำให้รายได้จากการให้บริการและ EBITDA สูงกว่าแนวโน้มที่ตั้งไว้สำหรับปี 2567
ด้านนายชารัด เมห์โรทรา รองประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า บริษัทกำลังยกระดับการบริการลูกค้าด้วยการนำ AI เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ ทั้งการแนะนำบริการที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย การให้ความช่วยเหลือทันทีโดย “มะลิ” ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเสมือน และการสนับสนุนพนักงานขายและคอลเซ็นเตอร์ด้วย AI Copilots
ในปี 2568 บริษัทมีเป้าหมายเพิ่มผู้ใช้บริการดิจิทัลจาก 1 ใน 3 เป็น 40% และขยายฐานผู้ใช้ดิจิทัลเป็น 20 ล้านราย แอปพลิเคชั่นบริการหลังการขายที่ปรับปรุงใหม่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบบิล รับสิทธิประโยชน์ และรับบริการ AI ได้ในที่เดียว
“เรามั่นใจว่าปี 2568 จะส่งมอบเครือข่ายที่ดีที่สุด พร้อมคุณภาพบริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ โดยปี 2568 จะเป็นปีที่สร้างกำไร พร้อมส่งมอบความประทับใจให้ลูกค้าผ่านความสำเร็จของทรู”