
“ดาต้าเซ็ต” เผยอินไซต์ “มัทฉะ” ฟีเวอร์ กวาดเอ็นเกจเมนต์บนโซเชียล 5.2 ล้านครั้ง “มัทฉะลาเต้” ขึ้นแท่นเมนูฮอต ครองเอ็นเกจเมนต์สูงสุดที่ 41% ร้านยอดนิยมฝั่งแมสมงลง “คาเฟ่ อเมซอน” ส่วนสาย Specialty หนีไม่พ้นแบรนด์ “MTCH”
ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา “มัทฉะ” เป็นท็อปปิกที่ชาวโซเชียลพูดถึงบนโลกออนไลน์ในหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นความฮอตที่คนแย่งกัน “เอฟ” ลงตะกร้า ภาวะขาดตลาดที่ทำให้เกิดการกักตุน ราคารีเซลที่พุ่งกระฉูด การครีเอตเมนูที่หลากหลาย และลายแทงร้านดังที่สาวกมัทฉะพร้อมใจกันป้ายยา
จากการรวบรวมข้อมูลผ่านเครื่องมือ Social Listening “DTX360” โดยบริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2568 ยอดเอ็นเกจเมนต์เกี่ยวกับ “มัทฉะ” บนโซเชียลมีเดียสูงถึง 5,219,570 ครั้ง
โดย “มัทฉะลาเต้” (Matcha Latte) เป็นเมนูอันดับ 1 ที่ครองใจชาวโซเชียล ได้รับเอ็นเกจเมนต์สูงสุดที่ 41% ตามมาด้วย Pure Matcha 35%, Matcha Coconut 10%, Matcha Honey 4%, Matcha Lemon 4%, Matcha Yuzu 2% และอื่น ๆ 4%
ในแง่ของ “Taste Note” หรือเอกลักษณ์ของรสชาติและกลิ่น ที่มาจากความแตกต่างของสายพันธุ์ใบชา แหล่งเพาะปลูก และกระบวนการผลิต พบว่า Taste Note ที่เป็นขวัญใจของชาวโซเชียล คือครีมมี่ (Creamy) มีจุดเด่นเรื่องความหอมเนย รสชาติกลมกล่อม นุ่มละมุน ได้รับเอ็นเกจเมนต์ที่ 38%
รองลงมา คือถั่ว (Nutty) ที่มีความมัน นัว คล้ายถั่วอัลมอนด์อบ 35%, สาหร่าย (Seaweed) ให้ความรู้สึกที่สดชื่นแบบน้ำทะเล มีความเค็มเล็กน้อย 10%, ช็อกโกแลต (Chocolate) ให้รสสัมผัสคล้ายช็อกโกแลต มีความขมเล็กน้อย 9%, ดอกไม้ (Floral) กลิ่นหอมดอกไม้อ่อน ๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น บางเบา 5% และอื่น ๆ 3%
ส่วนแบรนด์ยอดนิยมที่ชาวโซเชียลให้ความสนใจมากที่สุดในกลุ่มร้านเครื่องดื่มแบรนด์ดัง (Popular Coffee Chains) ที่มีเมนูมัทฉะเป็นทางเลือกให้ลูกค้า คือคาเฟ่ อเมซอน (Cafe Amazon) มียอดเอ็นเกจเมนต์ 29% ตามมาด้วยฟุกุ มัทชะ (Fuku Matcha) 21%, อินทนิล (Inthanin) 17%, พันธุ์ไทย (Punthai) 15%, สตาร์บัคส์ (Starbucks) 13% และอื่น ๆ 5%
ในฝั่งของร้านมัทฉะพรีเมี่ยม (Specialty Matcha Cafe) ที่เชี่ยวชาญเรื่องมัทฉะโดยเฉพาะ แบรนด์ MTCH ได้รับความสนใจจากชาวโซเชียลมากที่สุด มียอดเอ็นเกจเมนต์ 30% รองลงมาคือ Peace Oriental 23%, Ksana 18%, mini oriental 15%, Homu 10% และอื่น ๆ 4%
ความนิยมที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า “มัทฉะ” เป็นเครื่องดื่มที่มีศักยภาพทางการตลาดสูง รวมถึงยังตอบโจทย์ผู้บริโภคหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มรักสุขภาพและกลุ่มชอบทดลองสิ่งใหม่ ซึ่งแบรนด์สามารถสร้างการเติบโตได้ด้วยการพัฒนาเมนูที่หลากหลาย หรือจะชูคุณค่าทางวัฒนธรรมและประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นจุดขายหลักก็ได้เช่นกัน