ส่งด่วน EMS ปี‘67 โต 6.99% อานิสงส์อีคอมเมิร์ซขยายตัว

ไปรษณีย์ไทย

ไปรษณีย์ไทย เผยยอดบริการส่งด่วน EMS ปี 2567 โต 6.99% อานิสงส์อีคอมเมิร์ซขยายตัว เดินหน้า 5 กลยุทธ์ พัฒนาบริการ รองรับความต้องการที่หลากหลาย-การเติบโตของภาคธุรกิจ

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา การเติบโตของอีคอมเมิร์ซ ภาคค้าปลีก และการใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อขยายธุรกิจเป็นปัจจัย ที่ทำให้ความต้องการส่งด่วน EMS ในประเทศเติบโตขึ้น โดยตลอดปี 2567 บริการดังกล่าวมีปริมาณงานการขนส่งเติบโตขึ้นจากปี 2566 คิดเป็น 6.99% และคิดเป็นสัดส่วน 42.76% ของรายได้ไปรษณีย์ไทยทั้งหมด

รวมถึงเป็นกลุ่มบริการที่ผู้ใช้บริการให้ความเชื่อมั่นสูงสุด ซึ่งกลุ่มสินค้าที่ใช้บริการส่งด่วนกับไปรษณีย์ไทยสูงสุด คือเสื้อผ้า เครื่องสำอาง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร ชิ้นส่วน ยานยนต์ อุปกรณ์แม่เละเด็ก เฟอร์นิเจอร์ เอกสาร หนังสือ และสินค้าเบ็ดเตล็ดทั่วไป สอดคล้องกับการเติบโตในตลาดและกลุ่มผู้บริโภค และการแข่งขันของแพลตฟอร์มช็อปปิ้งออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเสื้อผ้า กลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพ และกลุ่มอาหารที่มาจากท้องถิ่น

ไปรษณีย์ไทย

ดร.ดนันท์ กล่าวต่อว่า ไปรษณีย์ไทยพร้อมสนับสนุนและขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจรายย่อย เอสเอ็มอี และกลุ่มที่ดำเนินธุรกิจในช่องทางอีคอมเมิร์ซ โดยวางกลยุทธ์ สร้างจุดเด่น และความเชื่อมั่นให้กับตลาด ดังนี้

1.ความคุ้มค่า และการช่วยควบคุมด้านต้นทุนการขนส่ง

EMS จะคิดค่าส่งจริงตามน้ำหนัก ราคาที่เท่ากันทุกพื้นที่ อีกทั้งยังมีราคาพิเศษสำหรับภาคธุรกิจ และกลุ่มค้าขายสินค้าออนไลน์ที่มีการส่งเป็นจำนวนมาก

ADVERTISMENT

2.ความรวดเร็วในการขนส่ง

การันตีระยะเวลาการขนส่งเพียง 1-2 วัน เพื่อช่วยให้สินค้าทุกประเภทถึงทุกปลายทางในระยะเวลาที่รวดเร็ว โดยมีมาตรฐานการขนส่งแบบเดียวกันทั่วประเทศ พร้อมด้วยการควบคุมระยะเวลาในการจัดส่ง Service Level Agreement ที่สามารถระบุเวลาการส่งที่ชัดเจน ซึ่งผู้ส่งและผู้รับสามารถรู้ระยะเวลาได้ตั้งแต่พัสดุเข้าสู่ระบบ

3.การรองรับสิ่งของฝากส่ง ครอบคลุมทุกความต้องการ

การปรับแต่งระบบขนส่งให้สอดคล้องกับพัสดุ Parcel Defined Logistics ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต เช่น ปลาสวยงาม ของชิ้นใหญ่ไซซ์จัมโบ้ที่มีพิกัดน้ำหนักมากถึง 200 กิโลกรัม เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า รถจักรยานยนต์ ต้นไม้ สินค้าที่มีมูลค่าสูง ยาและเวชภัณฑ์ งานศิลปหัตถกรรมไทย ผลไม้และพืชผลทางการเกษตรตามฤดูกาล จะช่วยให้ทุกความต้องการได้รับความสะดวก และสร้างจุดได้เปรียบด้านการส่งที่มีความรวดเร็วให้กับหลากหลายธุรกิจ

ADVERTISMENT

4.ฟังก์ชั่นที่พร้อมดูแลทุกการส่งด่วน

มาพร้อมการตรวจสอบสถานะที่มีความเรียลไทม์แม่นยำ 100% ทีมแคร์ที่ช่วยดูแลบริการหลังการขาย ซึ่งมีอยู่ในทุกจังหวัด การใช้สายด่วนเบอร์พี่ไปรฯ 1505 เพื่อแจ้งให้ผู้รับได้ทราบเวลาที่จะไปนำจ่ายสิ่งของ มีระบบที่ช่วยสนับสนุนร้านค้า เช่น การช่วยจัดทำจ่าหน้า การเตรียมข้อมูลฝากส่ง คลังสำหรับจัดเก็บสินค้า บริการเรียกรถเข้ารับพัสดุฟรีและไม่มีขั้นต่ำ บริการรับฝากสิ่งของนอกเวลาทำการในบางพื้นที่ รวมถึง COD เพื่อรองรับการเก็บเงินปลายทางที่เชื่อถือได้

5.เครือข่ายทั่วไทย ส่งด่วนมั่นใจ

ปัจจุบันไปรษณีย์ไทยมีเครือข่ายเพื่อรองรับความต้องการส่งด่วนกว่า 50,000 แห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่ทำการไปรษณีย์ ร้านไปรษณีย์ไทย ไปรษณีย์ไทย @ธงฟ้า ร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ รวมถึง EMS Point ที่เปิดโอกาสให้ร้านค้าและผู้ที่มีพื้นที่ว่าง สามารถเปิดจุดรับฝากสิ่งของและนำส่งกับไปรษณีย์ไทย

นอกจากนี้ ยังมีเครือข่ายด้านการส่งที่มีศักยภาพสูงไม่ว่าจะเป็นบุรุษไปรษณีย์กว่า 25,000 คน ที่เชี่ยวชาญทุกเส้นทาง รวมถึงศูนย์ไปรษณีย์ทั่วประเทศ 20 แห่ง ที่มีกระบวนการคัดแยกที่ทันสมัย รองรับพัสดุได้ต่อวันรวมกว่า 6 ล้านชิ้น

“ไปรษณีย์ไทยพร้อมสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและสังคม สอดรับกับการคาดการณ์เศรษฐกิจดิจิทัลไทยในปี 2568 ที่จะพุ่งทะยานมากกว่า 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีอีคอมเมิร์ซเป็นตัวแปรสำคัญ ซึ่งคาดว่าจะโตถึง 19% ในมูลค่า 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เชื่อมั่นว่าจะทำให้ดีมานด์การส่ง EMS ในประเทศเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”