สหรัฐกังวล พ.ร.ก.อาชญากรรมออนไลน์ สะเทือนบิ๊กแพลตฟอร์มมะกัน

ประเสริฐ จันทรรวงทอง
ประเสริฐ จันทรรวงทอง

“ประเสริฐ” เผย พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม อาจประกาศใช้ล่าช้าถึงสิ้นเดือน มี.ค. 2568 ภาคเอกชน-สถานทูตมะกัน แสดงความกังวลมาตรการแบงก์ ค่ายมือถือ แพลตฟอร์มดิจิทัล ต้อง “ร่วมชดใช้” มิจฉาชีพ จะกระทบธุรกิจ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า การประกาศใช้พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  พ.ศ.2566 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อย อยู่ในระหว่างการตรวจสอบขั้นสุดท้ายของสำนักงานกฤษฎีกา

จากเดิมนั้นคาดว่าจะประกาศใช้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ แต่อาจจะล่าช้าไปถึงสิ้นเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นขั้นตอนการตรวจสอบของสำนักงานกฤษฎีกา มิได้มีการแก้ไขสาระ หรือมีการเตะถ่วงจากผู้เกี่ยวข้องแต่ประการใด

อย่างไรก็ตาม เนื้อหาสาระในพระราชกำหนดที่มีหลักการร่วมชดใช้ความเสียหายที่สถาบันการเงิน บริษัทโทรคมนาคม และแพลตฟอร์มดิจิทัลจะต้องรับผิดชอบหากมีการปล่อยให้มิจฉาชีพใช้ก่ออาชญากรรมออนไลน์ ก็ได้สร้างความกังวลขึ้นในบรรดาบริษัทที่เกี่ยวข้อง

“เนื้อหาสาระของร่างพระราชกำหนดยังมิอาจเปิดเผยได้ เนื่องจากอาจมีแรงต้านมากจนกระทบกับความเร่งด่วนที่ต้องรีบประกาศใช้ แต่ยืนยันว่าตามหลักการของกฎหมายไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เป็นสิ่งที่บริษัทหรือผู้เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติอยู่แล้ว อย่างการแลกเปลี่ยนข้อมูลอาชญากรรม บัญชีม้า และอื่น ๆ หลังจากนี้จะมีการประชุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อออกแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องในรายละเอียดที่ต้องออกคู่กับ พ.ร.ก.”

รมว.ดีอีกล่าวด้วยว่า ไม่ใช่แค่สถาบันการเงินและบริษัทโทรคมนาคมที่แสดงความกังวล ยังรวมถึงสถานทูตสหรัฐได้ส่งหนังสือแสดงความกังวล ว่าร่างพระราชกำหนดดังกล่าวจะกระทบการดำเนินธุรกิจของแพลตฟอร์มเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐที่ให้บริการกับประชาชนในประเทศไทย

ADVERTISMENT

“ข้อกังวลดังกล่าวส่งมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2567 หลังจาก ครม.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.ก.อาชญากรรมออนไลน์ แต่ยืนยันว่าไม่ได้กระทบอะไร และไม่จำเป็นต้องนำไปปรับแก้ไขร่าง ซึ่งเป็นอำนาจของรัฐบาลที่ต้องเร่งกำหนดมาตรการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาที่กระทบกับประชาชน”