ทลายแก๊งสแกมเมอร์ในปอยเปต ยอดความเสียหายลดเท่าตัว

รมว.ดีอี เผยมาตรการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เห็นผลชัด ตัวเลขความเสียหายลดจาก 100-130 ล้านบาทต่อวัน เหลือ 30-50 ล้านบาทต่อวัน ชี้มาตรการปราบปรามแก๊งในปอยเปตเห็นผลชัด ยอดเสียหายลดลงถึง 20%

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า จากการดำเนินการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งในช่วง 2 ปีมานี้ ไม่ว่าจะเป็นการกวาดล้างบัญชีม้า จัดระเบียบซิม เสา สาย และการเร่งรัดดำเนินคดี ทำให้มูลค่าความเสียหายต่อวันลดลงเรื่อย ๆ

“จากเดิมช่วงแรก ๆ ที่อยู่วันละ 100-130 ล้านบาท เหนื่อยมาก ตอนหลังลดลงเหลือวันละ 80 ล้านบาท ผมคุยกับทางตำรวจ เขาบอกว่ามาตรการปราบปรามและตัดน้ำตัดไฟทำให้มูลค่าความเสียหายลดลง 20% แต่จากรายงานการลดลงของอาชญากรรมออนไลน์ที่ลดลงเยอะมาจากการปราบปรามแถบชายแดนกัมพูชา และแจ้งจับแก๊งสแกมเมอร์คนไทยในปอยเปต เพราะในเมืองชเวก๊กโก-เมียวดี ในเมียนมาส่วนใหญ่แล้วเป็นสแกมเมอร์ต่างชาติที่หลอกลวงคนในประเทศอื่น”

ยอดเฉลี่ยความเสียหายรายวันที่รายงานนายกฯ ไป เฉลี่ยอยู่ที่ 50 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งถือว่าลดลงเท่าตัว

แต่หากวัดเฉพาะศูนย์ AOC 1441 ที่รายงานเข้ามาหลังช่วงมาตรการปราบปราม วันที่ 2 มี.ค. 2568 ความเสียหายอยู่ที่ 33.5 ล้านบาทต่อวันเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อเจาะลึกดูประเภทความเสียหาย การหลอกลวงลงทุนน่ากังวลสุด เนื่องจากเป็นลักษณะการยินยอมโอนเงินเอง และมีมูลค่าความเสียหายมากที่สุด

ADVERTISMENT

จากสถิติวันที่ 2 มี.ค. ความเสียหายจากการลวงซื้อขายสินค้าและบริการ 338 คดี เสียหาย 3 ล้านบาท ขณะที่หลอกลงทุนมี 44 เรื่อง ความเสียหายสูงถึง 10.6 ล้านบาท