
LINE จัดงาน “BOOTCAMP DAY 2025” ติดปีก SMEs ไทย เติบโตท่ามกลางความท้าทาย พร้อมแชร์กลยุทธ์ “3+1L” แก้บั๊กการสร้าง Branding ช่วยให้ลูกค้ารักแบรนด์ยิ่งขึ้น
แม้ว่าเป้าหมายหลักในการทำธุรกิจของผู้ประกอบการหลายรายจะเป็นการทำให้สินค้าติดตลาด และสร้างยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นทุกวัน กลับมีปัจจัยให้คำนึงถึงมากกว่านั้น โดยเฉพาะการมัดใจลูกค้าให้อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ ไม่ทำให้เปลี่ยนใจไปรักแบรนด์อื่น
สิ่งนี้คือโจทย์ของการสร้าง “Branding” ที่ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ต่างจากแบรนด์อื่นอย่างชัดเจน ถือเป็นการติดกระดุมเม็ดแรกที่ช่วยให้แบรนด์มีโอกาสสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในมิติต่าง ๆ
ในงานสัมมนา BOOTCAMP DAY 2025 โดย LINE for Business “รัฐธีร์ ฉัตรดำรงค์ศักดิ์” รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ภาคธุรกิจหลายส่วนยังคงเผชิญความท้าทายอย่างหนัก จากอัตราการปิดตัวลงของนิติบุคคลที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนถึงปัจจัยความท้าทายหลากหลายที่เกิดขึ้น ทั้งจากกำลังซื้อที่ลดลงจากปัญหาหนี้ครัวเรือน ต้นทุนดำเนินงานที่สูงขึ้น การแข่งขันในช่องทางออนไลน์ที่รุนแรง และการนำเข้าสินค้าราคาถูก โดยเฉพาะจากจีน ที่เพิ่มขึ้นถึง 10.34% ในปี 2024 ทำให้ SME ต้องเผชิญกับการแข่งขันด้านราคาที่เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม
“LINE เชื่อว่าการสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นและแตกต่างเป็นกลยุทธ์สำคัญในการรับมือความท้าทายเหล่านี้ การจัดงาน BOOTCAMP DAY ที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์และการตลาดของไทย จะช่วยให้ SME มีไอเดียในการสร้างแบรนด์ได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
ในงานดังกล่าวยังได้ “กวินทร์ สวัสดิ์ศรี” หัวหน้าทีม LINE OA Campaign & Communication และ “จิรพัฒน์ เดชดนู” หัวหน้าทีม LINE Ads Product & Marketing Strategy จาก LINE ประเทศไทย มาแชร์กลยุทธ์การสร้าง Branding ที่เรียกว่า “3+1L” ซึ่งประกอบไปด้วย
L : Look – ภาพลักษณ์ของแบรนด์
สิ่งแรกที่ลูกค้ารับรู้และจดจำ ธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น โลโก้ สี ฟอนต์ และดีไซน์ที่สะท้อนตัวตน แคแร็กเตอร์ที่เป็นอัตลักษณ์ สามารถสะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้ชัดเจนในทุกการสื่อสาร
L : Language – ภาษาที่ใช้ และการเล่าเรื่องราว
การเล่าเรื่องของแบรนด์ควรถ่ายทอดออกมาได้ตรงกับแคแร็กเตอร์ของแบรนด์ นำเสนอคอนเทนต์ได้น่าสนใจ ตรงใจ ประทับใจ และทำให้ลูกค้ารู้สึกมีส่วนร่วม

L : Long-Term Relationship – การสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า
ในยุคที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากมาย ความภักดีต่อแบรนด์อาจไม่ได้เกิดจากคุณภาพของสินค้าเท่านั้น แต่แบรนด์จำเป็นต้องมีการสื่อสารกับลูกค้าอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เช่น การอัพเดตเทรนด์ และแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจ เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้
L : LINE
แพลตฟอร์มที่ช่วยให้แบรนด์ออกแบบ Customer Journey ได้ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ ตั้งแต่ทำความรู้จัก การสร้างความสนใจ ตัดสินใจซื้อครั้งแรก และกลับมาซื้อซ้ำพร้อมบอกต่อ ครอบคลุมทั้งการสร้างแบรนด์และการสร้างยอดขาย
เริ่มจากการใช้ LINE OA (LINE Official Account) ในการสร้างหน้าร้านดิจิทัล จากนั้นหาลูกค้าที่ใช่ด้วยการลงโฆษณาผ่าน LINE Ads เพื่อโปรโมตแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย พร้อมใช้ Rich Menu ในการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าค้นหาข้อมูลสินค้าและบริการได้ง่ายขึ้น พร้อมใช้ Rich Message ในการนำเสนอคอนเทนต์ที่ดึงดูดและตรงใจ เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าคลิกและมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น
เมื่อลูกค้ากำลังตัดสินใจซื้อสินค้า ก็มีเครื่องมือปิดการขายอย่าง MyShop ให้ลูกค้าเลือกสินค้า ดูรายละเอียด และกดสั่งซื้อได้โดยตรงผ่านแชต รวมถึงมีฟีเจอร์ Chat Tag ที่ช่วยให้ธุรกิจระบุกลุ่มลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อให้เกิดการซื้อซ้ำและบอกต่อด้วยระบบสมาชิก MyCustomer I CRM ที่มีการมอบสิทธิพิเศษ ข้อเสนอเฉพาะบุคคล และการสื่อสารที่ตรงใจ
โดยข้อมูลภายในของ LINE ประเทศไทย ระบุว่า ร้านค้าที่ใช้ Rich Menu มียอดขายและออร์เดอร์สูงกว่าปกติ 19 เท่า และร้านค้าที่ทำภาพสะดุดตา ใช้คำน่าสนใจ มีจำนวนคลิก LINE Ads สูงกว่าปกติ 3 เท่า และเมื่อกระตุ้นความสนใจด้วยบรอดแคสต์รูปแบบคูปอง จะช่วยเพิ่มอัตราการเปิดอ่านสูงกว่าแบบข้อความ 3.2 เท่า