
TRUE ชูหลัก “5P 5 พร้อม” สร้างมาตรฐานความปลอดภัย “ช่างเน็ต” ที่ต้องปีนเสา-ทำงานบนที่สูง ตั้งเป้าลดการเกิดอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงาน
นายวิศรุต ประยูรคำ หัวหน้าฝ่ายอาชีวอนามัย ความปลอดภัย และห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) กล่าวว่า ทรูให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องความปลอดภัยของพนักงานทั้งภายในและพนักงานของคู่ค้า สะท้อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่มุ่งเน้นเคารพสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงานอย่างถูกกฎหมาย โดยยังคงเป้าหมายการเสียชีวิตจากการทำงานของพนักงานเป็นศูนย์ (Zero Fatalities) และลดอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงาน (Lost Time Day Accident) ต่อเนื่องทุกปี
โดยหน่วยงาน HSS&SCS มีหน้าที่ในการส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยเชิงรุกภายในองค์กร และบริหารคู่ค้า-ผู้รับเหมาตลอดซัพพลายเชนให้ปฏิบัติเป็นไปตามหลัก ESG สอดคล้องกับ DJSI และข้อกำหนด “BPM-Business Partner Management” ของทรู เริ่มตั้งแต่การประเมินคุณสมบัติเบื้องต้นของคู่ค้า
และเมื่อคู่ค้าผ่านการคัดเลือกแล้ว หน่วยงานพร้อมส่งเสริม จัดฝึกอบรม ตรวจสอบหน้างาน ตรวจสอบการบริหารในทุกกลุ่มคู่ค้าแยกตามความเสี่ยง พร้อมทั้งนำเสนอผลการปฏิบัติงานรายไตรมาสถึงผู้บริหารระดับสูงของทรู ซึ่งทำให้ลดอุบัติเหตุในการทำงานของคู่ค้า Tier 1 และ Tier 2 ได้แก่ การตกจากที่สูงและบาดเจ็บจากไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปี 2567 สถิติพนักงานที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงจนถึงขั้นหยุดงานและต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล จากการตกจากที่สูงลดลงเหลือ 4 ราย จาก 16 รายในปี 2566 และบาดเจ็บจากไฟฟ้าลดลงเหลือ 1 ราย จาก 2 รายในปี 2566
นอกจากนี้ ทรูยังวางเฟรมเวิร์กด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับการทำงานบนที่สูง เช่น การปีนเสา เพื่อเดินสายไฟเบอร์ออฟติกหรือติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ ที่อาศัยทั้งความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ รวมถึงมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวด ผ่านหลัก “5P 5 พร้อม” ประกอบด้วย
1.Personnel / People (คนพร้อม) – สุขภาพต้องพร้อม ช่างไม่เจ็บป่วย งดดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนเพียงพอ และผ่านการอบรมด้านความปลอดภัยตามที่กำหนด
2.Planning / Procedure (แผนการดำเนินงานพร้อม) – มีขั้นตอนการปฏิบัติงานชัดเจน ก่อนปฏิบัติงานต้องมีการประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์อันตราย รวมถึงมีการขออนุญาตเข้าพื้นที่ตามที่กำหนด
3.PPE (Personal Protective Equipment) / Tools (อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลและเครื่องมืออุปกรณ์ทำงานพร้อม) – ในส่วนของงานบรอดแบนด์ อุปกรณ์ PPE ได้แก่ หมวกนิรภัย ถุงมือป้องกันกระแสไฟฟ้า รองเท้านิรภัย และเข็มขัดกันตกแบบครึ่งตัว ต้องครบ อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและใช้งานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
4.Place (พื้นที่ปฏิบัติงานพร้อม) – พื้นที่ทำงานพร้อมสำหรับปฏิบัติงาน ไม่มีความเสี่ยงแฝง ที่อาจทำให้เกิดอันตรายเมื่อเข้าพื้นที่ปฏิบัติงาน
5.Pause (พร้อมที่จะหยุดโดยไม่ลังเลหากพบความไม่ปลอดภัย) – หากพบความเสี่ยงในการปฏิบัติงานให้หยุดการดำเนินงานทันที เพื่อกำหนดแนวทางป้องกันอันตราย เมื่อประเมินว่าปลอดภัยแล้วจึงเริ่มดำเนินงานใหม่อีกครั้ง
ด้านนายสิทธิพัฒน์ ทองพรหม ช่างเทคนิคติดตั้งระบบ กล่าวว่า 1 วันรับงานขั้นต่ำ 3 งาน บางวันสูงสุด 4-5 งาน แต่ละวันที่ปีนเสา ก็เพื่อไปปฏิบัติภารกิจแตกต่างกัน ทั้งเดินสายติดตั้งอินเทอร์เน็ตใหม่ให้บ้านลูกค้า บางครั้งต้องปีนไปตรวจสอบ แก้ไข ซ่อมแซมสาย หรือไม่ก็ย้ายสายลงดิน เป็นงานจัดระเบียบสาย เพื่อป้องกันไม่ให้สายที่ตกหย่อนเกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถและคนบนท้องถนน และทุกครั้งที่ทำงาน
“คิดเสมอว่าต้อง ‘ไม่ประมาท’ เพราะสายไฟตรงหน้า มีทั้งไฟฟ้าแรงต่ำและไฟฟ้าแรงสูง ที่อาจก่อให้เกิดไฟฟ้ารั่ว ไปจนถึง Arc Flash หรือ ประกายไฟจากอาร์ค ที่ทำให้เกิดแผลไหม้รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้มั่นใจมากขึ้น คือทีมงานมีการตรวจเช็กอุปกรณ์ทุกชิ้นก่อนปฏิบัติงานอย่างละเอียด ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญ บวกกับเราเองก็ต้องปฏิบัติตามกฎเพื่อความปลอดภัยด้วย หัวหน้าย้ำเสมอว่า ถ้างานไหนดูอันตรายเกินไป จะยังไม่ให้ทำ แต่จะกลับมาวางแผน หาทางออกอื่นเพื่อความปลอดภัย”