อีโคซิสเต็ม-พัฒนาคน หัวใจธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์

REUTERS/Aly Song/File Photo

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่รวดเร็ว “หัวเว่ย” ยักษ์ไอทีจากแดนมังกร ประกาศชัดว่า “การสร้างระบบนิเวศและการพัฒนาคน” สำคัญมากกับทุกองค์กรเพื่อให้ก้าวอย่างมั่นคงในยุคนี้

“วิลเลียม หวัง” หัวหน้ากลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ จำกัด เปิดเผยว่า เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกำลังรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว สังคมในอนาคตก็กำลังพัฒนาไปสู่สังคมดิจิทัลอัจฉริยะ โดยมีเทคโนโลยีด้านออโตเมชั่น, ปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) การใช้งานคลาวด์, บิ๊กดาต้า และอินเทอร์เน็ตออฟทิงส์ (IOT) เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก บนพื้นฐานสำคัญคือ “เปิดกว้าง-ยืดหยุ่น-ปลอดภัย”

“หัวเว่ยพร้อมเปิดกว้างแพลตฟอร์มให้กับพาร์ตเนอร์ เพราะเรามีความตั้งใจเดินไปกับพาร์ตเนอร์และคู่ค้า เพื่อร่วมกันพัฒนาเป็นอีโคซิสเต็มใน2 มุม คือ 1.พาร์ตเนอร์ที่ทำเซอร์วิส และ 2.พาร์ตเนอร์ด้านบุคลากร”

ปัจจุบันมี 4 โครงการหลักเพื่อพัฒนาอีโคซิสเต็มที่เปิดกว้างให้พาร์ตเนอร์เข้าร่วมเพื่อสร้างอีโคซิสเต็มที่สมบูรณ์ ได้แก่ 1.หลักสูตร Huawei Certified Service Partners : CSPs โดยพาร์ตเนอร์ที่ผ่านหลักสูตรดังกล่าวกว่า 2,900 รายทั่วโลก โดยในจำนวนนี้มี 400 รายที่เป็นพาร์ตเนอร์ระดับ 4-5 ดาว และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีพาร์ตเนอร์ 160 ราย

2.Huawei Service Platform โดยเป็นศูนย์ระดับโลก 3 แห่ง และศูนย์ช่วยเหลือด้านเทคนิค 12 แห่งทั่วโลก โดยประเทศไทยมีศูนย์รองรับเซอร์วิสที่จะเชื่อมต่อกับศูนย์หัวเว่ยตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมี 16 เมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะสามารถได้อะไหล่ภายใน 4 ชั่วโมง

3.Huawei ICT Academy โดยจัดศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านไอซีทีกว่า 300 แห่งทั่วโลก และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หัวเว่ยได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยหลายแห่ง โดยมีนักศึกษากว่า 100 คนที่ผ่านการอบรมและการรับรองจากโครงการ

4.Huawei Authorized Learning Partners (HALP) หลักสูตรฝึกอบรมให้กับผู้เชี่ยวชาญด้านไอซีที ที่ผ่านการรับรองคุณสมบัติและวิศวกรในองค์กรคู่ค้าของหัวเว่ย ทั้งนี้ ทั้ง 2 โครงการมีผู้ได้รับการอบรมกว่า 7,000 ราย และมีวิศวกรกว่า 5,000 คนทั่วโลกที่ได้รับการรับรองจากโครงการ Huawei Certified Internetwork Experts (HCIE) และมี 120 รายอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคาดว่าภายในปี 2564 นี้จะมีบุคลากรจากภูมิภาคนี้เพิ่มมากกว่า 500 คน

“ในส่วนของหลักสูตรในการฝึกอบรมต่าง ๆ จะครอบคลุมเทคโนโลยีทั้ง AI บิ๊กดาต้า คลาวด์ และ IOT เพื่อช่วยให้วิศวกรด้านเทคนิคได้พัฒนาเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงของอุตสาหกรรม”

โดยประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญของหัวเว่ยที่จะขับเคลื่อนธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ใน 5 อุตสาหกรรมสำคัญ คือ ความปลอดภัยสาธารณะ การขนส่ง พลังงาน การเงิน และภาคการผลิต

“เอ็นเตอร์ไพรส์เซอร์วิสในไทยเติบโตเกินกว่าที่คาดไว้ ถือเป็น top 3 อาเซียน ไดเร็กชั่นของหัวเว่ยในไทยจะสอดคล้องกับอุตสาหกรรมที่มีการทรานส์ฟอร์ม โดยจะเน้นรองรับด้านไอโอที, คลาวด์ และ software defined networking และเซอร์วิสในอุตสาหกรรมนั้น ๆ เช่น เซอร์วิสพับลิกเซฟตี้ ทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์”