บราเดอร์ลุยชิงแชร์ 80% พิมพ์ A3

รุกเจาะธุรกิจออกแบบ - บราเดอร์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เครื่องพิมพ์ A3 ตั้งกลุ่มเป้าหมายเป็นธุรกิจออกแบบตกแต่ง ชูจุดเด่น "งานคมชัดรายละเอียดคม" เน้นจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์

บราเดอร์ชี้ตลาดเครื่องพิมพ์ยังสำคัญ แม้ก้าวสู่ยุคดิจิทัล ลุยส่งเครื่องพิมพ์อิงก์เจ็ต A3 ระบบแท็งก์ตัวแรกเจาะกลุ่มสถาปนิก หวังเพิ่มแชร์เป็น 80%

นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดเครื่องพิมพ์ในกลุ่มอิงก์เจ็ตโตขึ้น 13% จากการใช้งานสีมากขึ้น และการใช้อิงก์แท็งก์ช่วยลดต้นทุน ทั้งผู้ใช้ยังต้องการย้ายจากเครื่องพิมพ์ซิงเกิลฟังก์ชั่นมาเป็นมัลติฟังก์ชั่น ทำให้อิงก์เจ็ตขยับกินตลาดเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ขณะที่ตลาดเลเซอร์ก็ขยับกินตลาดเครื่องถ่ายเอกสารตลาดเครื่องพิมพ์ A3 คาดว่าปีนี้จะโตถึง 20% จากเทคโนโลยีใหม่ที่มาทดแทนรูปแบบเดิมที่มักใช้เครื่องถ่ายเอกสารหรือใช้เครื่องพิมพ์เลเซอร์ที่มีราคาแพงและต้นทุนต่อแผ่นสูง

ปัจจุบันบราเดอร์เป็นผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์ A3 มีมาร์เก็ตแชร์ 72% ซึ่งต้องการเพิ่มให้เป็น 80% เร็วที่สุด โดยมองเห็นโอกาสจากธุรกิจออกแบบหรืองานตกแต่ง ที่เติบโตสูงและต้องการนำเสนอชิ้นงานที่คมชัด ให้รายละเอียดครบถ้วน ทั้งการแข่งขันยังไม่รุนแรงเพราะมีเพียง 2 แบรนด์ จึงใช้จุดเด่นเรื่องความเร็วการพิมพ์และลดค่าใช้จ่าย”

ล่าสุดได้เปิดตัวเครื่องพิมพ์อิงก์เจ็ต A3 ระบบแท็งก์ตัวแรก ได้แก่ รุ่น MFC-T4500DW และเครื่องพิมพ์อิงก์เจ็ต รุ่น HL-T4000DW ระบบรีฟิลแท็งก์ (refill tank system) ราคาเริ่มต้นที่ 20,000 บาท เน้นเจาะธุรกิจสถาปนิก, นักออก แบบ ก่อนขยายไป SMEs และโซโหที่ต้องการงานพิมพ์เพื่อการนำเสนองานที่ใหญ่และมองได้ง่ายกว่าขนาด A4ภาพรวมธุรกิจเครื่องพิมพ์ของบราเดอร์ ในไตรมาสแรกโตขึ้น 9% โตกว่าที่เคยตั้งเป้าไว้ที่ 6% มีปัจจัยจากสินค้าที่ครบทุกเซ็กเมนต์ ปัจจุบันรายได้เครื่องพิมพ์เกิน 80% จักรเย็บผ้า 10% และอื่น ๆ เช่น เครื่องพิมพ์ฉลาก 10% ปีนี้คาดว่าบราเดอร์จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่ต่ำกว่า 10 โมเดล


“แม้ว่าทั่วโลกจะมีเทรนด์การงดใช้กระดาษ แต่ด้วยปริมาณข้อมูลที่มากขึ้น การพิมพ์จึงยังเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเทรนด์ทั่วโลกก็ไม่ได้มีแนวโน้มที่จะพิมพ์น้อยลง แต่จะทรงตัวแบบนี้”