“DAAT DAY 2018” พบพฤติกรรมซื้อสินค้าออนไลน์สูงสุดบน “FaceBook”

คอลัมน์ Pawoot.com

โดย ภาวุธ พงษ์วิทยภาณุ

 

งาน DAAT DAY 2018 โดยสมาคมโฆษณาดิจิทัล(ประเทศไทย) เมื่อเร็ว ๆ นี้มีคนจากแวดวงต่าง ๆ ทั้งออนไลน์เอเยนซี่ คนวงการโฆษณา บริษัทต่าง ๆ ที่กำลังปรับตัวเองเข้าสู่โลกออนไลน์ไปร่วมงานกันเยอะมากผมจึงอยากอัพเดตข้อมูลบางเรื่องที่น่าสนใจมาให้ทุกท่าน

เรื่องแรกคือ เรื่อง “totalspending” ของสื่อดิจิทัลที่เติบโตขึ้น โดยปีนี้โตประมาณ 21% ที่14,000 ล้านบาท ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัวเลขออนไลน์เพิ่มมากขึ้นมาจากความแมส (mass) ของสื่อดิจิทัล คนมีพฤติกรรมซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น มีการทำออนไลน์โปรโมชั่นมากขึ้น มี e-Coupon มีการใช้ดาต้าและใช้สื่อต่าง ๆ ที่ฉลาดมากขึ้น เช่น ดูจากการทำรีทาร์เก็ตติ้ง เวลาเข้าไปในเว็บไซต์หนึ่งแล้วโฆษณาของเว็บไซต์นี้จะตามเราไปด้วยตลอดเวลา หรือบางทีมีเทคโนโลยีบางอย่าง เช่นถ่ายรูปมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อหนึ่งปุ๊บปรากฏว่าโฆษณามอเตอร์ไซค์ยี่ห้อนี้ก็จะตามเรามาทันทีอุตสาหกรรมที่เติบโตมากขึ้น

โดยเฉพาะในวงการที่ใช้สื่อ โฆษณาดิจิทัล คือ รถมอเตอร์ไซค์ และจักรยาน โตขึ้น 179% เทียบจากเมื่อก่อนที่บ้านผมเองก็มีธุรกิจขายมอเตอร์ไซค์ที่เมืองกาญจน์ชื่อร้าน “โล้วเฮงหมง” มีหลายสาขา ตอนนี้น้องชายเป็นคนบริหารงานเล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันร้านใช้ Facebookเป็นเครื่องมือหลักในการคุยกับลูกค้า และมียอดขายผ่านเฟซบุ๊กโตขึ้น 7-8% จากเมื่อก่อนไม่มีตอนนี้เริ่มมีคนเข้ามาทักเข้ามาถามราคา มาคุยเรื่องการซื้อ ฯลฯ ทำให้”เฟซบุ๊ก” กลายเป็นช่องทางที่ใช้ปิดการขายได้ดีมากไปแล้ว

กลุ่มที่สอง ที่โตมากเช่นกัน คือวงการเรียลเอสเตต โตขึ้น 124%บอกได้เลยครับว่าวงการธุรกิจก่อสร้างเกี่ยวกับเรื่องบ้านหรือคอนโดฯต่าง ๆ เงินมาเทลงในออนไลน์มากทีเดียว หากย้อนไปเมื่อสัก 5-6 ปีก่อนในหนังสือพิมพ์หัวสีต่าง ๆ เปิดมาจะเจอโฆษณาคอนโดฯหรือบ้านจำนวนมาก เดี๋ยวนี้แทบหาไม่มีเลยเพราะเทลงมาบนออนไลน์หมดแล้วจริง ๆอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับ skin care ยังเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปีนี้ยังมีการใช้เงินสูง โดยเฉพาะการลงเม็ดเงินเพิ่มขึ้นกับออนไลน์ช็อปปิ้งในแคมเปญต่าง ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มลักเซอรี่แบรนด์

สังเกตได้ว่าเมื่อก่อนเราดูแมกาซีนผู้หญิงส่วนใหญ่เมื่อเปิดมาหน้าแรก ๆ จะเจอพวกแบรนด์ดัง ๆแต่ด้วยการล้มหายตายจากของแมกาซีน ทำให้บรรดาแบรนด์ต่าง ๆกระโดดลงมาออนไลน์เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มธนาคารเป็นกลุ่มที่มีการใช้เม็ดเงินบนโลกออนไลน์มากขึ้นสอดคล้องกับการที่ธนาคารกำลังกระโดดเข้าสู่การทำออนไลน์เพิ่มขึ้นนั่นเอง


ถึงตรงนี้หลายคนคงอยากรู้ว่าแล้วแพลตฟอร์มไหนหรือช่องทางออนไลน์ที่มีอัตราการใช้เงิน คือคนเอาเงินไปจ่ายสูงสุด ที่น่าสนใจ 3 อันดับแรก คือ Facebook รองลงมาคือ YouTube