ก็อทช่า ! มอลล์ คูปองออนไลน์หนุนขาช็อป

ยุคนี้การหาธุรกิจที่เติบโตไปพร้อมกับอีคอมเมิร์ซที่กำลังบูมได้ เป็นโอกาสทอง ยิ่งในไทยที่การซื้อขายออนไลน์กำลังเติบโตสุด ๆ ล่าสุด “ก็อทช่า ! มอลล์” แอปพลิเคชั่นแจกคูปองออนไลน์จากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแล้ว “คะซึยะ โอกาวา” ประธาน บริษัท แกรนด์ ดีไซน์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยมีการแข่งขันกันดุเดือดมาก หลายแบรนด์เข้ามาขายของหรือทำโปรโมชั่นบนออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากคนใช้เวลาบนออนไลน์ถึง 10 ชั่วโมง/วัน ดังนั้นรีเทลเลอร์ต้องพยายามเข้าถึงผู้บริโภคให้มากที่สุด แต่การจะเข้าไปเล่นในตลาดต้องใช้ทุนสูงมาก

ดังนั้น “ก็อทช่า ! มอลล์” (Gotcha!mall) จึงออกแบบมาเป็นรูปแบบบริการ CRM เพื่อช่วยธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยทำหน้าที่เชื่อมระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ โดยใช้รูปแบบ “คูปองดิจิทัล” ให้ผู้บริโภครับคูปองผ่านแอปพลิเคชั่น หรือเว็บบราวเซอร์ เพื่อใช้กับร้านค้า โดยมีจุดเด่นที่นำเอไอมาเลือกคูปองที่เหมาะสมกับลูกค้าที่สุด โดยจะวัดข้อมูลจากการเล่น เวลา สถานที่ เพื่อให้คูปองได้อย่างเหมาะสมและตรงใจเพื่อให้เกิดลอยัลตี้ต่อแบรนด์ และแบรนด์จะได้ดาต้าเพื่อไปวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาดได้

“การทำมาร์เก็ตติ้งมีปัญหา 4 ข้อ 1.โฆษณาที่ตรวจสอบได้ยากว่าช่วยจริงไหม 2.โปรโมชั่นส่วนใหญ่ทำเป็นกระดาษทำให้เก็บข้อมูลได้ยาก 3.การเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ยาก และ 4.ผู้บริโภคมองว่าการตลาดไม่สนุก”

สำหรับก็อทช่า ! มอลล์ เปิดให้บริการในญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2558 โดยในปี 2560-2561 เติบโต 332% ปัจจุบันมีผู้ใช้ 10.4 ล้านคน มีการใช้เหรียญแลกคูปองกว่า 65 ล้านเหรียญ มีพาร์ตเนอร์กว่า 37,000 ร้านค้า และในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เปิดตัวที่ประเทศไต้หวัน และล่าสุดได้เปิดตัวในประเทศไทย โดยจากการทดลองให้บริการ 1 เดือน พบว่าคนไทยให้ความสนใจมากกว่าคนญี่ปุ่น มีผู้ใช้ 20,000 คน โดยตั้งเป้าใน 3 เดือน มีผู้ใช้ 30,000-50,000 คน และภายใน 1 ปี ตั้งเป้าทำรายได้ 10 ล้านบาท และในปี 2563 ตั้งเป้าผู้ใช้ 3 ล้านคน และมีพันธมิตร 20,000 ร้านค้า รวมทั้งขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน โดยมองว่าอาจจะบุกประเทศเวียดนาม หรือฟิลิปปินส์ พร้อมกับพัฒนาระบบให้ใช้คูปองของท้องถิ่นผ่านแอปได้ไม่จำกัดแค่ในประเทศ

“โทชิยะ มัทซึโอะ” กรรมการบริหาร กล่าวเสริมว่า ก็อทช่า ! มอลล์ เปิดให้ใช้งานฟรี โดยผู้ใช้งานจะมีคอยน์สำหรับแลกคูปองคนละ 5 เหรียญ และจะเกิดใหม่ทุก ๆ 5 ชั่วโมง จำกัดไม่เกิน 3 เหรียญ/วัน เมื่อได้คูปองจะสามารถเลือกได้ว่าใช้ทันที หรือเก็บไว้นานประมาณ 7 วัน แต่เมื่อเปิดใช้จะมีระยะเวลา 5 นาที สำหรับรูปแบบรายได้ของบริษัทจะหักเปอร์เซ็นต์เมื่อมีการใช้คูปอง ซึ่งมูลค่าขึ้นอยู่กับการตกลงกัน ส่วนกลุ่มเป้าหมายหลักจะโฟกัสทั้งเพศชายและหญิง อายุระหว่าง 18-50 ปี ในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะผู้ใช้งานเฟซบุ๊กและโซเชียลมีเดียต่าง ๆ โดยจะเริ่มต้นที่การทำโฆษณาผ่านออนไลน์ และกำลังดูว่าออฟไลน์จะสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่ไม่สามารถเปิดเผยงบฯการตลาดได้

“ตอนนี้คูปองออนไลน์มีใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเป็นเทรนด์ทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยที่มีจำนวนผู้ใช้ออนไลน์เยอะมาก ทำให้ร้านค้าต่าง ๆ ทำการตลาดหรือโปรโมชั่นบนออนไลน์มากขึ้น ขณะที่พฤติกรรมการช็อปปิ้งของคนไทยและทั่วโลกสามารถซื้อของได้ 24 ชั่วโมง ดังนั้น อนาคตจะออกโปรโมชั่นในแต่ละช่วงเวลาเพิ่มขึ้น ซึ่งตอนนี้มีช่วงที่พีก คือ พักกลางวัน หรือช่วงกลางคืน 4 ทุ่มขึ้นไป ซึ่งปัจจัยที่ส่งเสริมมาจากการหาโปรโมชั่นหรือเป็นการวางแผนช็อปปิ้งในวันถัดไป”