“สรรเสริญ” เผย “อินเตอร์เน็ตประชารัฐ” เข้าถึงแล้วกว่า 24,700 หมู่บ้าน ลุยดูเเลโครงข่าย-จัดซื้ออุปกรณ์ต่อ!

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2561 เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาลว่า พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังจากการประชุมในวันนี้ว่าถึงโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ หรืออินเตอร์เน็ตประชารัฐ โดยกระทรวงดิจิทัลเป็นผู้นำเสนอ ซึ่งกำหนดกรอบวงเงินไว้ประมาณ 2 หมื่นล้าน สำหรับความคืบหน้าผลการดำเนินงานนั้น มีการเเบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การทำอินเตอร์เน็ตประชารัฐทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย และการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเป็นดิจิทัลฮับของภูมิภาคอาเซียน

“โดยหมู่บ้านต่างๆ ในประเทศไทยนั้น แยกออกเป็น 2 ส่วนเช่นกัน คือ 1 หมู่บ้านที่บริษัทหรือภาคเอกชนทำอินเตอร์เน็ตอยู่เเล้วเพราะคุ้มค่าแก่การลงทุน 2 พื้นที่ที่ไม่คุ้มค่าการลงทุนทางพาณิชย์ กำหนดเป็นพื้นที่ย่อยออกมาอีก 2 โซน คือ โซนที่ไม่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์เเละไม่มีบริการ หรือโซนซี ภายใต้การรับผิดชอบของกระทรวงดิจิทัล 24,700 หมู่บ้าน โดยให้ทีโอทีเป็นผู้ดำเนินการ ขณะนี้ติดตั้งเเล้วเสร็จหมดแล้วตั้งเเต่ 19 ธันวาคม 2560 เรียกว่ากองทุน กทปส. ที่ย่อมาจากกองทุนวิจัยเเละพัฒนากิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมตรงนี้ กสทช. เป็นผู้รับผิดชอบ

อีกพื้นที่คือโซนซีบวก นอกจากจะไม่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ไม่มีการบริการเเล้ว ยังยากต่อการเดินทางเข้าถึง ถูกจัดให้เป็นพื้นที่เป้าหมายตามเเผนของยูโซ่ ซึ่ง กสทช.เป็นผู้รับผิดชอบครอบคลุมทั้งสิ้น 3,920 หมู่บ้าน” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

กระทรวงดิจิทัลรายงานความคืบหน้าว่า หลังจากทีโอทีได้ดำเนินการไปเเล้ว ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 11,361 ล้านบาท จึงมีงบประมาณเหลืออยู่ เเละคิดว่าจะนำไปใช้ในอินเตอร์เน็ตที่ไปสร้างโครงข่ายไว้สามารถใช้ได้จริง อาทิ การดูเเลบำรุงโครงข่าย การจัดซื้ออุปกรณ์เพื่อป้องกันเวลาไฟฟ้าดับ การจัดอบรมผู้เทนชุมชนให้มีความรู้ในการอินเตอร์เน็ตไปใช้ในการขับเคลื่อนชุมชนให้เป็นชุมชนดิจิทัล โดยขอนำเงินส่วนที่เหลือไปใช้ในตรงนี้ ซึ่ง ครม.เห็นชอบในหลักการเเต่ขอให้ไปทำข้อตกลงกับสำนักงบประมาณ เเละขอให้ใช้เท่าที่จำเป็นจริงๆ

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าไม่สามารถเบิกถ่ายได้ทันในช่วงเดือนเมษายน 2561 จึงขอขยายเวลาไปจนถึงวันทำการวันสุดท้ายของเดือนกันยายน 2561 ที่จะทำโครงการนี้

โดยรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัล ระบุว่า เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจดูว่าอินเตอร์เน็ตที่ติดตั้งเเล้วเสร็จตั้งแต่ปี 60 ใช้งานได้ปกติ หรือมีปัญหาหรือไม่นั้น ซึ่งการทำโครงการนี้ได้มีการจัดทำระบบ Netwokr operation center ขึ้นมาเพื่อดูว่าสถานที่เเห่งไหนมีปัญหาหรือไม่ เเล้วให้ชาวบ้านที่ใช้งานโทรเข้ามา หากมีปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ทางระบบใช้เวลาแก้เพียง 15 นาทีเท่านั้น แต่กรณีเกิดการชำรุด เสียหาย จำเป็นต้องเดินทางเข้าไปในหมู่บ้านนั้น การเเก้ปัญหาขึ้นอยู่กับว่าตำบล หรือหมู่บ้านนั้นอยู่ไกลแค่ไหน ซึ่งจะเร่งดำเนินการเเก้ไขให้โดยเร็ว

ทั้งนี้ทางกระทรวงยังได้ออกไปให้รายละเอียดสำคัญเเก่พี่น้องประชาชน อาทิ การฝึกการอบรมการใช้ดิจิทัลพื้นฐาน มีเป้าหมายในปี 2561 ให้ได้ 1 ล้านคน ซึ่งตอนนี้ใกล้เป้าหมายเเล้ว เเละคิดว่าทำได้ทันทีตั้งเป้าเอาไว้ อีกทั้งยังมีการประสานกับสำนักงานสถิติเเห่งชาติให้ลงไปสำรวจผลสำรวจภาคสนามเพื่อต้องการทราบความต้องการเเละผลประโยชน์ ล่าสุดมีประชาชนลงใช้งานอินเตอร์เน็ตประชารัฐแล้วประมาณ 4 ล้านคน และสามารถลงทะเบียนได้ครั้งเดียว เเม้จะย้ายหมู่บ้านเเล้วก็ตาม